
เซนต์เฮเลนา (St. Helena) หนึ่งในเกาะที่อยู่ห่างไกลที่สุดในโลก ตั้งเป้าที่จะเป็น “เกาะสีเขียว” โดยสมบูรณ์ ด้วยการผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียน และสนับสนุนให้ชาวเมืองหันมาใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการปล่อยมลพิษแล้ว ยังลดต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงดีเซลอีกด้วย

สรุปข่าว
เกาะเซนต์เฮเลนา เป็นเกาะภูเขาไฟที่อยู่ตรงกลางมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ มีประเทศที่ใกล้ที่สุดคือนามิเบีย (Namibia) บนแผ่นดินใหญ่ของแอฟริกา ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1,874 กิโลเมตร โดยสำนักข่าว AP รายงานว่า จากการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุด โดยไม่ได้ระบุปีที่มีบันทึก มีประชากรเพียง 4,439 คนที่อาศัยอยู่ที่นี่
ปัจจุบันบนเกาะนี้ มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าบนเกาะเพียงแค่ 4 คันเท่านั้น ซึ่งต้องใช้การชาร์จพลังงานจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าภายในบ้าน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องการผลักดันการใช้พลังงานบนเกาะ ให้ไปสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น จึงได้มีโครงการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเครื่องแรก นอกจากนี้รัฐบาลยังมีแผนนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามือสองจำนวนมาก เพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประชาชน
และเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานสะอาดที่จะเพิ่มมากขึ้นรัฐบาลจึงได้มีการลงทุนด้านพลังงานทดแทน ด้วยการติดตั้งกังหันลมและแผงโซลาร์เซลล์ บริเวณหน้าผาใกล้ชายฝั่ง เพื่อช่วยในการผลิตไฟฟ้า รวมถึงจะผลักดันการพัฒนาแหล่งกักเก็บพลังงานสำรองจำนวนมาก เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของประชากรในพื้นที่มากขึ้น
มีรายงานว่าเกาะเซนต์เฮเลนา (St. Helena) ต้องแบ่งงบประมาณร้อยละ 15 ของงบประมาณประจำปี ที่มีอยู่ราว 34 ล้านปอนด์ หรือราว 1,430 ล้านบาท ในการนำเข้าน้ำมันดีเซล เพื่อใช้ในด้านพลังงานและการขนส่ง
แต่ในอนาคตรัฐบาลต้องการที่จะเพิ่มการพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น โดยจะเพิ่มการผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์จากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 80 ในอีกสี่ปีข้างหน้า และทำให้ได้มากยิ่งขึ้นภายในสิ้นทศวรรษนี้
ที่มาข้อมูล : TIMBUKTU CONTENT, ASSOCIATED PRESS, REUTERS
ที่มารูปภาพ : TIMBUKTU CONTENT, ASSOCIATED PRESS, REUTERS