สรุปข่าว
ในวันที่ Digital Platform เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อหลายภาคอุตสาหกรรม ทำให้การปรับตัวเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆ อย่างก็กำลังเชื่อมโยงกัน เช่นเดียวกับท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.ที่ได้ทรานส์ฟอร์มรูปแบบและโครงสร้างธุรกิจในเชิงการบริหารจัดการ โดยการเชื่อมโยงที่ไม่ใช่เพียงแค่ภายในทอท. เท่านั้น แต่จะเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานและองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
AOT DIGITAL AIRPORTS สนามบินมีชีวิต
AOT DIGITAL AIRPORTS เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีในรูปแบบ Application บนอุปกรณ์พกพา อย่างสมาร์ทโฟน และแท็บเลต เพื่อบริหารจัดการท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพ ยกระดับคุณภาพการให้บริการ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมเชิงพาณิชย์ของผู้ประกอบการในท่าอากาศยาน โดย Digital Platform นี้จะครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. โดยในช่วงแรกจะนำร่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และในอนาคตจะเชื่อมโยงท่าอากาศยานพันธมิตรอีก 16 แห่งทั่วโลก
ในเบื้องต้น Application จะมีฟังก์ชันสำหรับให้ผู้โดยสารได้ใช้งาน ดังนี้
1. Flight Information ตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบิน เคาน์เตอร์เช็คอินและสัมภาระ
2. Map and Navigation แผนที่อัจฉริยะ (Intelligence Map) ในอาคารผู้โดยสารพร้อมนำทางไปยังจุดต่างๆ
3. Transport & Car Park บริการข้อมูลการให้บริการขนส่งสาธารณะและการเดินทางภายในท่าอากาศยาน
4. Facilities & Services บริการข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าอากาศยาน
5. Shop & Dine แหล่งรวบรวมข้อมูลสินค้า ร้านอาหาร พร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ
6. Flight Alerts แจ้งเตือนเที่ยวบินที่กำหนดไว้เพื่อให้ผู้โดยสารได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนไปท่าอากาศยาน
7. Suggestion & Help Desk ช่องทางการรับฟังข้อคิดเห็น
8. Mobile Application Translation เครื่องมือช่วยแปลภาษาได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย และภาษาญี่ปุ่น
จะเห็นอะไรบ้างใน AOT DIGITAL AIRPORTS
แม้ว่า Application ที่เกิดขึ้นจะเป็นการเชื่อมโยงเอาทุกสิ่งอย่างในท่าอากาศยานไว้ด้วยเพื่อเอานวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่เดินทางทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ จากเดิมที่เชื่อมโยงข้อมูลทุกอย่างภายในท่าอากาศยานไว้ด้วยกัน แต่ปัจจุบันและอนาคตการก้าวไปอีกระดับของท่าอากาศยานไทยผ่าน Application ดังกล่าวจะมีครอบคลุมและเชื่อมโยงได้กว้างขึ้นกว่าเดิม
สิ่งที่จะได้เห็นเพิ่มจากเดิมมีดังนี้
1 อีกหน่อยจะเห็นการใช้งานแบบ AR โดยการนำเทคโนโลยี AR เข้ามาช่วย เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้งานได้เสมือนจริงมากขึ้น
2 ต่อไปนี้จะไม่ใช่แค่การเขื่อมโยงเพียงแค่ในสนามบินเท่านั้นแต่จะเป็นการเชื่อมโยงไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ระบบขนส่ง อย่าง ขสมก. และหน่วยงานอื่นๆ เป็นต้น
3 จะเป็นแอพฯเพื่อการเดินทางอย่างแท้จริง ด้วยการบอกข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวต่างๆ ว่ามีที่มาเป็นอย่างไร ซึ่งในเริ่มต้นจะเป็น Text ก่อน และจะมีการพัฒนาเป็นเสียง(Voice) แล้วต่อยอดเป็น Animation
ทั้งนี้จะเริ่มต้นใช้กับ 6 ท่าอากาศยานไทยก่อนในเบื้องต้น พร้อมคาดว่าความพร้อมของระบบทั้งหมดจะใช้ได้ทันก่อนช่วงปีใหม่ 2563 นี้
สุดท้าย AOT ได้ความร่วมจาก 2 พันธมิตรอย่าง CAT + Google
ความรวมมือของ CAT และ GOOGLE STATION เกิดขึ้นจากการที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของ Digital Platform จึงร่วมเป็นพันธมิตรในการร่วมให้บริการ Free WiFi ภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในชื่อ "Free Airport Google Station WiFi by CAT" โดยให้ความเร็ว Super High Speed ในการให้บริการถึง 30/30 Mbps ฟรี เพื่อเป็นก้าวสำคัญให้กับคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ท่าอากาศยานไทยจะเป็นโลกเสมือนจริงมากขึ้นผ่าน Application ที่เชื่อมโยงทุกอย่างไว้ในที่เดียว ทั้งเรื่องของข้อมูล การเดินทาง ความช่วยเหลือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางเป็นประจำ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทยได้ด้วย เนื่องจากท่าอากาศยานเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางในการพาคนทุกเชื้อชาติเชื่อมไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นในประเทศไทย ซึ่งอนาคตเชื่อว่าจะได้เห็นการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูล : -
