สีของดาวตก! สดร. เปิดข้อมูลลักษณะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย

สีของดาวตก! สดร. เปิดข้อมูลลักษณะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย

สรุปข่าว

สดร. ชวนรู้จัก "สีของดาวตก" ลักษณะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย องค์ประกอบทางเคมี และโมเลกุลของอากาศโดยรอบ

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) โพสต์ข้อความว่า เมื่อคืนวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลาประมาณสามทุ่มเศษ โซเชียลแชร์คลิปวิดีโอและภาพถ่ายของ "ลูกไฟสีเขียว" ที่พาดผ่านท้องฟ้า มีผู้พบเห็นในหลายจังหวัดแถบภาคกลาง และภาคตะวันออกของไทย ซึ่งเบื้องต้นนี้สามารถคาดการณ์ได้ว่าเป็นดาวตกชนิด ลูกไฟ (Fireball)


พร้อมกันนี้ยังให้ความรู้เกี่ยวกับ "สีของดาวตก" โดยระบุว่า ดาวตก เกิดจากเศษหินและฝุ่นของดาวหาง หรือดาวเคราะห์น้อย พุ่งเข้ามาชนกับชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เกิดการเสียดสีและเผาไหม้ ทำให้อะตอมของดาวตกเปล่งแสงออกมาในช่วงคลื่นต่าง ๆ 


เราจึงมองเห็นสีของดาวตกปรากฏในลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยได้แก่ องค์ประกอบทางเคมี และโมเลกุลของอากาศโดยรอบ ซึ่งชนกับตัวดาวตกอย่างรุนแรงจนเกิดความร้อนสูง


สำหรับสีของดาวตกนั้น มาจากแสงที่เปล่งออกมาจากอะตอมโลหะของดาวตก ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามองค์ประกอบทางเคมี เช่น เช่น อะตอมแคลเซียม ( Ca ) ให้แสงสีออกโทนม่วง อะตอมแมกนีเซียม ( Mg ) และนิกเกิล ( Ni ) ให้แสงสีฟ้าเขียว อะตอมโซเดียม ( Na ) ให้แสงสีส้มเหลือง ในขณะที่โมเลกุลในชั้นบรรยากาศโลก จะมีอะตอมของออกซิเจน ( O ) และไนโตรเจน ( N ) เป็นองค์ประกอบ ซึ่งจะให้แสงสีแดง


ดังนั้น สีของดาวตกจึงขึ้นอยู่กับการเปล่งแสงขององค์ประกอบแต่ละชนิด และการเปล่งแสงของอากาศโดยรอบตัวดาวตกที่ร้อนจัด ซึ่งมักจะให้แสงสีแดงและสีเขียวเป็นหลัก ขึ้นอยู่กับความสูงจากพื้นโลก






ภาพจาก สดร./AFP

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ดาวตก
สีของดาวตก
ดาวตกชนิดลูกไฟ
อุกกาบาต
ข่าวดาวตก
ดาวตกล่าสุด
ดาวตกบนท้องฟ้า
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติดาราศาสตร์
ลูกไฟปริศนา
Thailand Web Stat
ข่าวเด่นวันนี้
Icon