นายกฯ ลงพื้นที่ตึกถล่ม มีข่าวดีเจ้าหน้าที่ตรวจพบสัญญาณชีพเพิ่มเติม

นายกฯ ลงพื้นที่ตึกถล่ม มีข่าวดีเจ้าหน้าที่ตรวจพบสัญญาณชีพเพิ่มเติม

วันนี้ (31 มีนาคม 2568) เวลา 12.00 น.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ลงพื้นที่เขตจตุจักร เพื่อติดตามความคืบหน้า อาคาร สตง. ถล่ม เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังรายงานล่าสุด

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบกับอาสาสมัครจากหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนของกองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมรับฟังรายงานล่าสุด ซึ่งมีข่าวดีว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพบสัญญาณชีพเพิ่มเติม จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินไปที่จุดของหน่วยกู้ชีพซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว  

โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับทีมอาสาชาวต่างชาติ ว่า หากต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพิ่มเติม ขอให้ติดต่อมาได้ทันที รวมทั้ง ได้สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับวิธีการลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ซึ่งพบว่า เส้นทางนำส่งผู้ประสบภัยไม่มีความซ้ำซ้อนกับเส้นทางหลัก  โอกาสนี้ ได้พบปะหารือกับนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมให้กำลังและคอยสังเกตการณ์ในพื้นที่ เนื่องจากทางการอิสราเอลได้นำเครื่องมือพิเศษสแกนหาสัญญาณชีพมาร่วมในปฏิบัติค้นหาผู้ติดค้างตึกถล่มในครั้งนี้ด้วย

สรุปข่าว

นายกฯ ติดตามการช่วยเหลือ ผู้ติดค้างในตึก สตง. ถล่ม พร้อมให้กำลังใจทีมไทยและทีมอาสาต่างชาติ ย้ำ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงาน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

วันนี้ (31 มีนาคม 2568) เวลา 12.00 น.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ลงพื้นที่เขตจตุจักร เพื่อติดตามความคืบหน้า อาคาร สตง. ถล่ม เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังรายงานล่าสุด

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบกับอาสาสมัครจากหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนของกองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมรับฟังรายงานล่าสุด ซึ่งมีข่าวดีว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพบสัญญาณชีพเพิ่มเติม จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินไปที่จุดของหน่วยกู้ชีพซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว  

โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับทีมอาสาชาวต่างชาติ ว่า หากต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพิ่มเติม ขอให้ติดต่อมาได้ทันที รวมทั้ง ได้สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับวิธีการลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ซึ่งพบว่า เส้นทางนำส่งผู้ประสบภัยไม่มีความซ้ำซ้อนกับเส้นทางหลัก  โอกาสนี้ ได้พบปะหารือกับนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมให้กำลังและคอยสังเกตการณ์ในพื้นที่ เนื่องจากทางการอิสราเอลได้นำเครื่องมือพิเศษสแกนหาสัญญาณชีพมาร่วมในปฏิบัติค้นหาผู้ติดค้างตึกถล่มในครั้งนี้ด้วย

ปภ. ยืนยันจากสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร A ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อค


วันนี้ (31 มี.ค.68) กรมป้องกันและเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงข่าวยืนยันกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร  A ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ปภ.ได้ตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่า เป็นกรณีที่ผู้ที่อยู่ในอาคารได้อพยพลงมา เนื่องจากมีอาการตื่นตระหนกตกใจจึงรีบลงจากอาคาร ประกอบกับ ปภ. ได้ประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว พบว่า ไม่ได้เป็นผลกระทบที่เกิดจากอาฟเตอร์ช็อคแต่อย่างใด โดยล่าสุดเมื่อเวลา 10.05. น. ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อค ขนาด 3.7 ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทั้งนี้ หลังจากเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา  บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ที่เป็นผู้ดูแลอาคารได้เข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารแล้วพบว่ามีความปลอดภัย ขอให้อย่าตื่นตระหนกตกใจและสามารถกลับเข้าอาคารได้แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ปิดจราจร ถนนกำแพงเพชร 2 จากเหตุแผ่นดินไหว เช็กเส้นทางเลี่ยงที่นี่!

- อาฟเตอร์ช็อก แผ่นดินไหว! กรมอุตุนิยมวิทยา เผยเกิดเหตุแล้ว 200 ครั้ง

- รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เปิดให้บริการแล้ววันนี้ ยกเว้นสถานีมีนบุรี

- สรุปความเสียหายล่าสุด แผ่นดินไหว-อาคารสตง.ถล่ม

- GISTDA เผยภาพถ่ายดาวเทียม ก่อน-หลังเกิด "แผ่นดินไหว" ในเมียนมา

ที่มาข้อมูล : รัฐบาล

ที่มารูปภาพ : รัฐบาล