ย้อนไทม์ไลน์ ดราม่าเดือด 'เนเธอร์แลนด์' พบ 'อาร์เจนติน่า' ศึกฟุตบอลโลก 2022

ย้อนกลับไปก่อนเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เนเธอร์แลนด์ พบกับ อาร์เจนติน่า ในห้องแถลงข่าว โดย หลยุส์ ฟาน กัล กุนซือของเนเธอร์แลนด์วัย 71 ปี ให้สัมภาษณ์ โดยพูดถึงความพร้อมของทีมและพูดถึงคู่แข่งอย่างอาร์เจนติน่าด้วย

"ดิ มาเรีย บอกผมว่าเป็นผู้จัดการทีมที่แย่ที่สุดที่เขาเคยเจอ? เขาเป็นเพียงไม่กี่คนที่คิดแบบนี้นะ ผมเสียใจนะกับสิ่งที่เขาพูดออกมา เมมฟิส (เมมฟิส เดปาย) เองก็ต้องรับมือกับสถานการณ์คล้ายๆ กันตอนอยู่ แมนยูฯ แต่ตอนนี้เราก็แทบจะจูบปากกันเลยนะ"

"อาร์เจนติน่า ใช้ผู้เล่นตัวรุกไม่เยอะ ดังนั้นทุกอย่างจะต้องให้ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นคนจัดการ และเมื่อคุณคาดหวังการจ่ายบอลจาก เมสซี่ พวกเขาก็จะเหลือตัวรุกอีกแค่คนเดียว ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดี"

"เมสซี่ คือผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมได้อันตรายที่สุด เขาสามารถสร้างสรรค์ได้มากมาย และทำประตูได้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน ตอนเมื่อพวกเขา (อาร์เจนติน่า) เสียบอล และคู่แข่งได้ครองบอล เขาจะไม่มีส่วนร่วมในการเล่นเกมรับมากนัก และนี่เป็นจุดที่จะทำให้เรามีโอกาส"

ต่อมาระหว่างเกมการแข่งขัน คู่บิ๊กแมตช์ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย มาเตอู ลาฮอส ผู้ตัดสินชาวสเปน แจกใบเหลืองไปถึง 16 ใบ + ใบแดงอีกหนึ่งใบให้กับ เดนเซล ดุมฟรีส์ เนื่องจากรูปเกมเดือดตลอดทั้งเกม และผู้เล่นทั้งสองทีมเข้าบอลจังหวะ 50-50 แบบใส่กันไม่ยั้งเลยทีเดียว

โดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ ที่เมื่อยิงประตู 2-0 ยังไปแสดงความดีใจด้วยการหันไปเอามือป้องหูใส่ซุ้มมานั่งสำรองของ เนเธอร์แลนด์ เพื่อเป็นการโต้ตอบ

จังหวะที่เดือดสุดคงจะเป็นช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังมีเหตุการณ์ชุลมุนเล็กน้อย เป็นจังหวะที่ ปาเรเดส สไลด์หนักใส่ นาธาน อาเก้ แล้วมิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ลุกขึ้นเตะบอลทิ้งไปที่ซุ้มม้านั่งสำรองของทีมคู่แข่ง ทำเอาเหล่านักเตะดัตช์ไม่พอใจ วิ่งปรี่เข้าหา ปาเรเดส หวังเอาเรื่อง

กระทั่งทำให้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมที่อยู่ในสนาม เข้ามาวิ่งชนอย่างจัง จนกองกลางยูเวนตุสกระเด็นกองไปกับพื้น จนทำให้เกิดจังหวะชุลมุนภายในเกม และ ปาเรเดส โดนใบเหลืองจากเหตุการณ์นั้น

อย่างที่หลายคนทราบ นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เกมครึ่งหลังทดมากถึง 10 นาที แล้วเนเธอร์แลนด์ก็มาตามตีเสมอในนาทีสุดท้าย จน มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่าบ่นหลังจบเกมว่า ผู้ตัดสินอย่าง ลาฮอส ใช้ไม่ได้ ตัดสินเข้าทางเนเธอร์แลนด์ทุกอย่าง และต้องการทำยังไงก็ได้ให้เนเธอร์แลนด์ ตีเสมอ 2-2 จนทำให้ต้องต่อไปตัดสินชี้ขาดด้วยการยิงจุดโทษ

ในช่วงการยิงจุดโทษ ก็มีบรรยากาศเดือดอีก เพราะตอนที่ เอนโซ่ เฟอร์นานเดส ตัวยิงที่ 4 ของอาร์เจนติน่ายิงพลาด ก็มีผู้เล่นเนเธอร์แลนด์ไปแสดงท่าทีซ้ำเติม พอเห็นว่าทำได้ผลกับ เอ็นโซ่ ก็ไปพยายามทำอีกครั้งกับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ตัวยิงตัวที่ 5 สุดท้าย กลายเป็นสงครามประสาทตอนยิงลูกโทษไปอีก แล้วยิ่งเนเธอร์แลนด์เป็นฝ่ายแพ้ พวกเขาก็ยิ่งถูกวิจารณ์กับสิ่งที่พวกเขาทำเพิ่มขึ้น แต่ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ก็ไปเยาะเย้ยผู้เล่นเนเธอร์แลนด์หลังจากการดวลจุดโทษจบแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเช่นกัน

ขณะที่หลังจบเกม เมสซี่ ยังเข้าไปมีปากเสียงกับ หลุยส์ ฟาน กัล และสต๊าฟฟ์โค้ชทีมชาติเนเธอร์แลนด์ พร้อมกับทำมือบอกให้พวกเขาหุบปากไปอีกด้วย จนทำให้มีการชุลมุนกันเล็กน้อย โดยกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า ออกมากล่าวถึง ฟาน กัล ที่วิจารณ์ตนเอง และเพื่อนร่วมทีมอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ในหลายประเด็น ว่า ไม่ให้เกียรติและแสดงความเคารพตนเอง และ อาร์เจนติน่า นอกจากนี้ผู้เล่น ดัตช์ บางคนด้วย ที่ออกมาวิจารณ์ตนเอง และ อาร์เจนติน่า

นอกจากนี้ยังมีคลิปหลังจบเกม ที่แข้งซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนติน่า ให้สัมภาษณ์ ซึ่งมีการพูดตอบโต้กับคนหลังกล้อง ที่มีการระบุว่าเป็น เวาต์ เว็กฮอร์สต์ แข้งของเนเธอร์แลนด์ที่ทำ 2 ประตูตีเสมอ โดยบทสนทนาคือ เมสซี่ ตะโกนว่า “มองอะไรไอ้ไง่? กลับไปเลยไอ้โง่ กลับออกไป”

สรุปดราม่า ระหว่างทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กับ ทีมชาติอาร์เจนติน่า ฉนวนก็น่าจะมาจากการให้สัมภาษณ์ของ หลุยส์ ฟาน กัล ในการแถลงข่าวก่อนเกมที่ทั้งคู่จะพบกันนั่นเอง และสุดท้ายก็เป็น อาร์เจนติน่า ที่เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ในการแข่งขัน

ที่มาภาพ : AFP