ส่องฟอร์มสุดหรู แข้งแมนยู ในศึกฟุตบอลโลก 2022
หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างพากันโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งยิงประตูและแอสซิสต์ รวมไปถึงพากันคว้ารางวัล "แมน ออฟ เดอะ แมทช์" ประจำกันแข่งขัน ในศึกฟุตบอลโลก 2022 อีกด้วย
เรียกได้ว่าคืนฟอร์มเก่งจนได้สำหรับ สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษที่ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเอาชนะทีมชาติเวลส์ 3-0 โดยเกมนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการยิงคนเดียว 2 ประตูพา สิงโตคำราม ผงาดเข้าสู่รอบน็อคเอ๊าต์ ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยฐานะแชมป์กลุ่ม บี
หลังจากที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ถูกสื่ออังกฤษวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากเกมที่ อังกฤษ เสมอ สหรัฐอเมริกา จากข้อหาที่ไม่ยอมส่ง ฟิล โฟเด้น ลงมาเปลี่ยนเกม
มาเกมนี้ เซาธ์เกต เลือกทำตามคำเรียกร้องด้วยการให้โอกาส ฟิล โฟเด้น ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงทันทีโดยได้ประสานงานกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ,ฟิล โฟเด้น ,แฮร์รี่ เคน
ภาพรวมผลงานของผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอลโลก เริ่มกันตั้งแต่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ พี่เล่นให้ดีแบบผิดหูผิดตายอมรับใช้ทีมชาติอังกฤษ
โดย แม้ว่าจะถูกจับยืนเป็นเซนเตอร์ฝั่งซ้าย แต่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ก็ยังเล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการยืนตำแหน่ง การเข้าสกัดไปจนถึงการออกบอลบิ้วอัพเกมทั้งทั้งยาว นอกจากนี้ แม็คไกวร์ ยังเป็นอีกหนึ่งอาวุธหลักยามที่อังกฤษได้ลูกเซ็ตพีทด้วย
ในขณะที่คนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ มารคัส แรชฟอร์ด ที่ระเบิดฟอร์มยิงคนเดียว 2 ประตูในเกมที่อังกฤษ ถล่ม เวลส์ 3-0 พร้อมกับคว้าตำแหน่งผู้เล่ยยอดเยี่ยมในเกมนี้
ในซีซั่นนี้ถือเป็นขาขึ้นของ แรชฟอร์ด อย่างแท้จริง โดยนอกจากที่เจ้าตัว จะได้ฉลองการยิงครบ 100 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว ประตูที่ 100 ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายก็มาจากปลายสตั๊ดของ แรชฟอร์ด เช่นกัน
ถึงตอนนี้ แรชฟอร์ด ทำประตูในฟุตบอลโลกไปแล้ว 3 ประตู ทำสถิติเทียบเท่า เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเรียบร้อยแล้ว
มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนแรกที่ยิง 3 ประตูฟุตบอลโลกให้ทีมชาติอังกฤษ นับตั้งแต่ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ทำได้ศึกในฟุตบอลโลกปี 1966
จากผลงานของเหล่าแข้ง ปีศาจแดง ในสีเสื้อทีมชาติอังกฤษ นับว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะจะเป็นเรียกความมั่นใจ เพื่อต่อยอดกลับมารับใช้ เอริค เทน ฮาก หลังจากที่ศึก เวิลด์คัพ ปิดฉากลง
บทสรุปกลุ่ม B ทีมชาติอังกฤษ เก็บ 7 แต้มครองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้าไปพบกับ ทีมชาติเซเนกัล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในวันที่ 4 ธันวาคม
ซึ่งนอกเหนือจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ,แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ลุค ชอว์ ที่เพิ่งจะเป็นกำลังสำคัญพา ทีมชาติอังกฤษ ทะลุเข้ารอบน็อคเอาท์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่โชว์ในการรับใช้ชาติได้อย่างยอดเยี่ยม
ที่มาภาพ : AFP
4 นักเตะทีมชาติบราซิล ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามครบทั้ง 4 คนในเกมที่ บราซิล ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ไปด้วยสกอร์ 1-0 ได้แก่
- คาเซมิโร่ 90 นาที
- เฟร็ด 58 นาที
- อันโตนี่ ซานโตส 17 นาที
- อเล็กซ์ เตลลิส 4 นาที (ปล่อยยืมให้ เซบีย่า)
หลังจบเกมที่ คาเซมิโร่ ได้รับคำชมมากมาย เพราะทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ทำลายเกมแดนกลางของ สวิส ได้อย่างราบคาบ แถมเป็นคนยิงประตูชัยให้ บราซิล ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดที่ 2 กลุ่ม จี ด้วย
โดยหลังจบเกม ติเต้ เอ่ยปากยกย่อง คาเซมิโร่ ที่คว้ารางวัล "แมน ออฟ เดอะ แมทช์" ในเกมนี้ ว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก เช่นเดียวกับ เนย์มาร์ ที่โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัวด้วยใจความยกย่องเพื่อนร่วมชาติรายนี้ว่าเป็นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกเช่นกัน
นอกเหนือจากแก๊งค์บราซิลแล้ว ทางฝั่งของ ทีมชาติของทีมชาติโปรตุเกส ก็ได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ส่งเข้าประกวด ที่ยิงคนเดียว 2 ประตูพา ฝอยทอง ต้อน อุรุกวัย 2-0 และได้รับเลือกเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เช่นกัน
เท่ากับว่าในรอบ 2-3 วันที่ผ่านมา 3 ผู้เล่นจาก แคมป์ปีศาจแดง โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ในเกมที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม คาเซมิโร่ 1 ประตู บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ แรชฟอร์ด อีกคนละ 2 ประตู แถมยังได้รับตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทั้ง 3 คน ดังนั้นฟุตบอลโลก ในช่วงหลังอาจทำให้แฟนๆ ปีศาจแดง นอนฝันหวานก็เป็นได้
ที่มาภาพ : AFP