TNN online ทำความรู้จัก เทคโนโลยีใหม่ศึก 'ฟุตบอลโลก 2022' ระบบช่วยตัดสินกึ่งอัตโนมัติ SAOT

TNN ONLINE

ฟุตบอลโลก 2022

ทำความรู้จัก เทคโนโลยีใหม่ศึก 'ฟุตบอลโลก 2022' ระบบช่วยตัดสินกึ่งอัตโนมัติ SAOT

ทำความรู้จัก เทคโนโลยีใหม่ศึก 'ฟุตบอลโลก 2022' ระบบช่วยตัดสินกึ่งอัตโนมัติ SAOT

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มเปิดฉากในวันที่ 20 พฤศจิกายน จนถึง 18 ธันวาคม นี้ โดยจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยตัดสิน ที่มีชื่อว่า‘Semi-Automated Offside Technology’ หรือจะเรียกสั้นๆ ก็ได้ว่า ‘SAOT’ ที่จะถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน เวิลด์คัพ ที่ กาตาร์

ทุกวันนี้เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬาต่างเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านของการพัฒนานักกีฬา การรับรองความต้องการของบุคคลทั่วไป ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพยุงความยุติธรรมในสนามแข่งขัน โดยเฉพาะสนามฟุตบอลที่ ณ เวลานี้ มีนวัตกรรมมากมายที่เข้ามาเพิ่มศักยภาพ ความถูกต้องและแม่นยำ เพราะปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกการตัดสินในจังหวะชี้เป็นชี้ตายที่เกิดขึ้น มันมีมูลค่าราคาแพงในตัวของมันเอง


ฟุตบอลโลกหนล่าสุดในปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย นับเป็น เวิลด์ คัพ ครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีช่วยตัดสิน (VAR) เข้ามาใช้ ซึ่งกว่าจะได้ใช้ก็ต้องปาเข้าไปเกมที่ 3 ของทัวร์นาเม้นต์ที่ ฝรั่งเศส พบ ออสเตรเลีย จากจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ ถูก จอช ริสดอน เกี่ยวล้มในเขตโทษ ก่อนที่ VAR จะส่งสัญญาณไปยัง อันเดรส คุนญา ผู้ตัดสินชาวอุรุกวัยว่าเป็นจุดโทษของทัพ ตราไก่ ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกที่มีการใช้ VAR ช่วยในการตัดสิน


อย่างไรก็ตามหลังการใช้เทคโนโลยี VAR ยังถูกตั้งคำถามในบางขั้นตอน ว่ามันได้ผลและสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงในสนามมากน้อยแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ก็มีการเก็บข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยีช่วยตัดสินมาโดยตลอดจนเป็นที่มีของเทคโนโลยีใหม่ที่มีชื่อว่า‘Semi-Automated Offside Technology’ หรือจะเรียกสั้นๆ ก็ได้ว่า ‘SAOT’ ที่จะถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน เวิลด์คัพ ที่ กาตาร์ 


ระบบ ‘SAOT’ ไม่ใช่ระบบการตัดสินแบบอัตโนมัติ แต่เป็นระบบการช่วยตัดสินกึ่งอัตโนมัติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเหลือผู้ตัดสิน ,ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ,รวมไปถึงผู้ตัดสินในห้อง VAR ซึ่งในท้ายที่สุดการตัดสินใจสุดท้าย ก็จะมาดุลยพินิจของมนุษย์ ซึ่งก็เป็นทีมงานผู้ตัดสินหมดในการทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่ดี 


โดยในฤดูกาลที่ผ่านมาศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับเป็นลีกที่ถูกพูดถึง เกี่ยวกับการใช้ VAR เข้ามาช่วยตัดสินอย่างกว้างขวาง จนเกิดประเด็นตามมามากมาย ไปจนขนาดเรื่องของการตีเส้นล้ำหน้า ซึ่้งที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่ามีปัญหาให้พูดถึงอยู่บ้างเช่นกัน 


ศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ มีการอัพเดทเทคโนโลยี VAR โดยเพิ่มเติมในส่วนของ ‘SAOT’ มาเผื่อช่วยในจังหวะจับล้ำหน้าโดยเฉพาะ ซึ่ง ฟีฟ่า ได้พัฒนาร่วมกับ ‘อาดิดาส’ แบรนด์ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขัน และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีกีฬาอีกมากมาย จนสามารถอัปเกรด VAR ไปอีกขั้นหนึ่งได้


ลูกฟุตบอลที่จะใช้ใน เวิลด์ คัพ หนนี้ มีชื่อว่า ‘อัล ริห์ลา’ จะมีอุปกรณ์บันทึกข้อมูลอย่าง ‘Inertial Measurement Unite’ (IMU) ใส่เข้าไปในแกนกลางของลูกฟุตบอล และจะบันทึกข้อมูลในระดับ 500 ครั้งต่อวินาทีเพื่อตรวจจับแรงสั่นสะเทือนเมื่อลูกบอลถูกเตะหรือถูกสัมผัส


ข้อมูลที่ได้จะถูกนำมาประมวลผลกับกล้อง 12 ตัวที่จะติดตั้งอยู่ใต้หลังคาสนาม เพื่อติดตามลูกฟุตบอล โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาเทียบกับตำแหน่งการยืนของผู้เล่นคนนั้นๆ ซึ่งจะมีจุดคำนวณของร่างกายถึง 29 จุด ทั้ง แขน ,ขา ,หัวเข่า ,ส้นเท้า ,ปลายเท้า ,ศรีษะ หรือแม้กระทั่งช่วงบั้นท้าย 


ก่อนที่จะมีการประมวลผลออกมาในรูปแบบของภาพจำลอง 3 มิติ เพื่อช่วยให้ผู้ตัดสินในห้อง VARเช็กล้ำหน้าที่รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น โดยระบบภายในลูกฟุตบอลที่ผ่านการทดสอบมาแล้วจะไม่ส่งผลต่อความรู้สึกของนักเตะระหว่างการแข่งขัน


นอกจากนี้เพื่อความโปร่งใส ภาพจำลอง 3 มิติ จะแสดงบนมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ในสนาม และเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เพื่อยืนยันกับแฟนบอลและผู้เล่นทั้งสองทีมถึงความยุติธรรมที่เกิดขึ้น 


กระบวนการทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 2-3 วินาที ซึ่งจะทำให้การตัดสินล้ำหน้านั้นเร็วขึ้นและมีความแม่นยำขึ้น เมื่อผู้ตัดสินวิดีโอยืนยันการตัดสินแล้วก็จะมีการแจ้งไปยังผู้ตัดสินที่อยู่ในสนาม อย่างไรก็ตามในศึกฟุตบอลโลกหนนี้ ไม่มีผู้ตัดสินจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในห้อง VAR เลยแม้แต่รายเดียว


สำหรับเทคโนโลยี ‘SAOT’ เคยได้รับการทดสอบเรียบร้อยแล้ว ในทัวร์นาเม้นต์ระดับนานาชาติมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายการ ฟีฟ่า อาหรับ คัพ รวมไปถึงศึกชิงแชมป์สโมสรโลก เมื่อปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม


ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน ฟีฟ่า กล่าวถึงการใช้เทคโนโลยี ‘SAOT’ ในศึก เวิลด์ คัพ ที่ กาตาร์ ว่า  “เราคาดว่าเทคโนโลยีล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติจะช่วยให้เราก้าวไปอีกขั้น รายงานระบบใหม่จะลดเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการตัดสินใจล้ำหน้า VAR จาก 70 วินาทีเป็น 25 วินาที”


ด้าน จานนี อินฟานติโน ประธาน ฟีฟ่า ก็กล่าวถึงความภาคภูมิใจของ ฟีฟ่า ที่ตั้งตารอคอยการเปิดตัวเทคโนโลยี ‘SAOT’ ในฟุตบอลโลก โดยเปิดเผยว่า 


“การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 ฟีฟ่า ได้นำเทคโนโลยี VAR มาใช้ในรายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และพิสูจน์แล้วว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่อาจโต้แย้งได้”


“ในขณะที่เทคโนโลยีจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ เป็นวิวัฒนาการของระบบ VAR ที่มีการใช้งานทั่วโลก เทคโนโลยีนี้เป็นจุดสูงสุดของการวิจัยและทดสอบอย่างทุ่มเทเป็นเวลา 3 ปีเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทีม ผู้เล่น และแฟนๆ ที่จะมุ่งหน้าไปยังกาตาร์ในปลายปีนี้”


“ฟีฟ่ามุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงเกมฟุตบอลในทุกระดับ เรากำลังตั้งตารอที่จะได้เห็น ประโยชน์ของเทคโนโลยีล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติที่ FIFA World Cup 2022”


สำหรับ ‘SAOT’ ถูกใช้งานอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรายการ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2021 โดยเป็นจังหวะที่ อลาเมรี่ ซาเย็ด นักเตะของ อัล จาซิร่า ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยิงประตูใส่ อาส ปิเร่ จาก ตาฮิติ ก่อนที่ระบบ ‘SAOT’ จะได้ทำงานเป็นครั้งแรก เมื่อตรวจจับ พร้อมกับแสดงภาพให้เห็นบนจอในรูปแบบ 3D ว่า ซาเย็ด มีส่วนของร่างกายที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จึงถูกริบประตูดังกล่าวไปในที่สุด


นอกจากนี้ในอนาคตยังมีการวางแผนที่จะนำที่เทคโนโลยี ‘SAOT’ ไปใช้ในพรีเมียร์ลีกและลีกชั้นนำภายในฤดูกาล 2023-24 นี้ด้วย


ที่มาภาพ : AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง