รัสเซียจะบุกตียูเครนหรือไม่?
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เรียกร้องรัสเซียชี้แจงเหตุผล การเสริมกำลังทหารรัสเซียเกือบ 100,000 นายใกล้พรมแดนยูเครน หลังมีข่าวรัสเซียเตรียมบุกยูเครน
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (17 พฤศจิกายน) เรียกร้องรัสเซียชี้แจงเหตุผลว่า เหตุใดจึงเสริมกำลังทหารรัสเซีย ใกล้กับพรมแดนภาคตะวันออกของยูเครน และสหรัฐฯ จะเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง ให้รัสเซียกระทำการอย่างรับผิดชอบและโปร่งใสมากกว่านี้ เกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังทหารรอบ ๆ พรมแดนยูเครน
ออสตินยอมรับว่า ทางเจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ เอง ก็ไม่แน่ใจว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เสริมกำลังทหารใกล้กับพรมแดนติดกับยูเครนด้วยสาเหตุใด เพนทากอน หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยจับตาดูการเสริมกำลังทหารของรัสเซียดังกล่าวมาตลอด
---คำถามคือ แล้วรัสเซียจะบุกยูเครนหรือไม่?---
คำตอบคือ หากดูจากสภาพแวดล้อมโดยรวมแล้ว มีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่รัสเซียจะเดินหน้าบุกยูเครนอย่างที่ชาติตะวันตกกล่าวหา เพราะรัสเซียก็ไม่ได้ต้องการ "สงคราม" เช่นกัน
เหตุผลข้อที่ 1 รัสเซียไม่ได้พยายามที่จะปกปิดความเคลื่อนไหวของกองกำลังทหารของตัวเอง ไม่ว่าจะระหว่างการเคลื่อนที่มายังพรมแดนหรือเมื่อมาถึงพรมแดนแล้ว และภาพจากดาวเทียมเองก็แสดงให้เห็นถึงยานยนต์ทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์ครบเครื่อง โดยที่ไม่มีความพยายามในการปิดบังเรื่องนี้แต่อย่างใด
เพราะหากรัสเซียต้องการดำเนินการบุกรุก และโจมตีจริง เขาคงต้องพยายามใส่ใจไม่ให้คู่อริรู้ความเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน และนี่อาจเป็นเพียงสัญญาณเตือนเท่านั้น
ที่ผ่านมารัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารในเมืองทางใต้ของประเทศ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว
เหตุผลที่ 2 การบุกยูเครนไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เพราะปัจจุบัน กองทัพยูเครนมีประสบการณ์, ทันสมัย และมีแรงจูงใจในการตอบโต้กลับ เพื่อไม่ให้ถูกรุกราน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่รัสเซียจะพิจารณาเช่นที่ตะวันตกกล่าวหา
เหตุผลที่ 3 การทำสงคราม คือ ความเสียหายมูลค่ามหาศาล ทั้งในแง่ของมูลค่าอาวุธยุทโธปกรณ์ อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่อาจพัฒนาสู่สงคราม "นิวเคลียร์"
แม้ที่ผ่านมารัสเซียจะบุกไครเมีย และผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า รัสเซียต้องจ่ายในราคาแสนแพงไม่น้อย แต่รัสเซียยอมทำ เพราะชนท้องถิ่นในใครเมีย "ยอมรับรัสเซีย" จึงคุ้มค่าที่จะเสี่ยง แต่การเดินหน้าบุกยูเครน ดูแล้วอาจไม่คุ้มค่า และอาจเจ็บหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ รัสเซียให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกยูเครน ที่เกิดขึ้นหลังรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียไปจากยูเครนเมื่อปี 2014 สงครามในภาคตะวันออกยูเครนนาน 7 ปีนี้ มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 14,000 คน
ก่อนหน้านี้ ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ออกมายืนยันไปแล้วว่า รัสเซียไม่ได้มีเจตนาที่ก้าวร้าวใด ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการทหารของรัสเซีย ที่เกิดขึ้นในดินแดนของรัสเซียเอง และถือเป็นเรื่องภายในของรัสเซีย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังตำหนิรัสเซีย ที่ใช้ขีปนาวุธยิงทำลายดาวเทียมจารกรรมเก่าอายุเกือบ 40 ปีไป 1 ดวงเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ก่อให้เกิดเศษซากดาวเทียมขนาดใหญ่นับร้อย ๆ ชิ้น เพิ่มจำนวนขยะอวกาศ และจะเป็นอันตรายในระยะยาวต่อปฏิบัติการต่าง ๆ บนอวกาศได้
เศษซากดาวเทียมจะบั่นทอนเสถียรภาพด้านยุทธศาสตร์บนอวกาศ เนื่องจากในปัจจุบันก็มีขยะอวกาศอยู่มากมายแล้วบนอวกาศ ซึ่งจะคงอยู่อย่างนั้นไปตลอดกาล นี่จึงเป็นปัญหาด้านความปลอดภัย และสหรัฐฯ จะกดดันรัสเซียต่อไปให้มีการกระทำที่รับผิดชอบมากกว่านี้
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล และ เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
ภาพ: AFP