เปิดต้นตอ ‘ภัยหนาว’ สหรัฐฯ วิกฤตหนักราว ‘วันสิ้นโลก’

สภาพอากาศหนาวเย็นจัดแผ่ปกคลุมหลายรัฐในสหรัฐตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากปรากฎการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ (Polar Vortex) หรือ กระแสลมวนในเขตขั้วโลก ซึ่งกลับมาซ้ำเติมชาวอเมริกันอีกครั้ง หลังประสบเมื่อปลายปีที่แล้ว  โพลาร์วอร์เท็กซ์ เป็นกระแสลมที่พัดเอาความหนาวเย็นมาปกคลุมไปทั่วพื้นที่รอบบริเวณมหาสมุทรอาร์กติก โดยปกติทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาจะมีกระแสน้ำอุ่นไหลวนอยู่เป็นตัวกักไม่ให้ลมหนาวเคลื่อนลงมา แต่เนื่องจากผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายส่งผลให้อุณหภูมิในมหาสมุทรต่ำลง กลายเป็นทำให้เกิดปรากฏการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ เคลื่อนลงตอนใต้เข้าสู่สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ในตำแหน่งละติจูดประมาณ30-40 องศา

 

จากเดิมที่จะเกิดในตอนบนที่ละติจูดประมาณ 40-50 องศาส่งผลให้ทั้งรัฐมิชิแกน รัฐมิสซูรี รัฐโอไฮโอ รัฐอินดีแอนา รัฐเคนทักกี รัฐมิสซิสซิปปี และรัฐเท็กซัส อุณหภูมิติดลบฉับพลัน ตั้งแต่ -30ไปจนถึง -40 องศาเซลเซียส ระบบสาธารณูปโภคหยุดชะงัก ทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา   

 

ปรากฏการณ์ โพลาร์ วอร์เทกซ์ ส่งผลให้ธรรมชาติหลายอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลง และหนึ่งในนั้น คือบริเวณทะเลสาบมิชิแกน ทางฝั่งรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา  ที่ปรากฎ ลูกบอลน้ำแข็ง (Ice Balls)  เกิดขึ้นจากการแตกตัวของแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ก่อตัวในฤดูหนาว เมื่อเจอกับคลื่นแล้ว หิมะที่ตกลงมาทำให้มีรูปร่างเป็นทรงกลม ก่อนจะถูกคลื่นซัดลอยมาติดชายฝั่ง

 

ลูกบอลน้ำแข็งเกยตื้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในฤดูหนาวที่มีระดับอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง   ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน น้ำในทะเลสาบมิชิแกน ได้ก่อตัวเป็นแผ่นน้ำแข็ง สร้างคลื่นน้ำแข็งในทะเลสาบ และต่อมาก็กลายเป็น ก้อนหินน้ำแข็งเหล่านี้ ซึ่งเกิดจากจากแผ่นน้ำแข็งและหิมะที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่ รัฐหลุยเซียน่า ทางใต้ของสหรัฐ ปรากฎภาพต้นไม้น้ำแข็งในทะเลสาบ Fausse Point ในอุทยานแห่งชาติของรัฐลุยเซียนา  ซึ่งสวยงามราวภาพยนตร์ Frozen ทะเลสาบแห่งนี้ ติดอันดับ1ใน  20 ทะเลสาบที่สวยที่สุดในรัฐลุยเซียนา เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติและเส้นทางพายเรือแคนูยอดนิยมของคนอเมริกัน

 

ขณะที่เมืองหลวง อย่างกรุงวอชิงตัน ดีซี นั้นเจอหิมะตกหนักถล่มหนัก ส่งผลกระทบต่อการทำงานสาธารณะของเมืองหลวงของสหรัฐฯ 

 

โดยยนายกเทศมนตรีของกรุงวอชิงตันดีซีได้ประกาศภาวะฉุกเฉินจากหิมะก่อนสภาพอากาศเลวร้ายเมื่อกลางสัปดาห์ มีกำหนดให้โรงเรียนของรัฐทุกแห่งต้องสอนผ่านออนไลน์และบุคลากรที่ไม่ใช่คนสำคัญของรัฐบาลให้ทำงานจากที่บ้าน รวมทั้งมีคำสั่งให้ปิดสถานที่ทดสอบและฉีดวัคซีน โควิด-19 ชั่วคราว

 

พายุฤดูหนาวหลายลูกส่งผลให้ทุกอย่างชะงัก กระทบต่อหลายพื้นที่ของสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน โดยจุดวิกฤตสุดอยู่ที่ รัฐเท็กซัส ที่เจอไฟดับกระทบประชาชนหลายล้านคน และแหล่งจ่ายน้ำและก๊าซธรรมชาติหยุดชะงัก 

 

ส่งผลกระทบต่อประชากร 1.32 ล้านคน  นาย เกร็ก แอบบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ระบุวานนี้ (18 ก.พ.) ว่าโรงไฟฟ้าทุกแห่งในรัฐสามารถกลับมาจ่ายไฟได้ตามปกติแล้ว แต่ยังคงมีบ้านเรือนกว่า 3 แสนหลังที่เผชิญปัญหาไฟดับเนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่น

 

อย่างไรก็ดี สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังคงทำให้เกิดหิมะตกหนัก รวมทั้งอากาศหนาวเย็นยาวๆ ถึงวันเสาร์ ซึ่งขณะนี้มี ชาวอเมริกันประมาณ 78 ล้านคนกำลังอยู่ภายใต้การแจ้งเตือนสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาว และอีกกว่า 27 ล้านคนกำลังเข้านอนภายใต้คำเตือนอากาศหนาวเหน็บอุณหภูมิติดลบต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง