อัตราฆ่าตัวตายของญี่ปุ่นลดลงต่ำในรอบ 40 ปี

ตำรวจญี่ปุ่นเปิดเผยว่าอัตราการฆ่าตัวตายของปี 2562 ลดลงต่ำมากที่สุดในรอบ 40 ปี หลังรัฐบาลแก่ไขปัญหาจริงจัง

วันนี้ ( 17 ม.ค. 63 )ตำรวจญี่ปุ่นเปิดเผยว่าอัตราการฆ่าตัวตายเมื่อปีที่แล้ว ลดลงเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบกว่า 40 ปี และยังเป็นการฆ่าตัวตายลดลงปีที่ 10 ติดต่อกันแม้ญี่ปุ่นมีประวัติการฆ่าตัวตายของประชาชนมาอย่างยาวนาน เพื่อหลีกเลี่ยงความอัปยศและการสูญเสียเกียรติ จนทำให้อัตราการฆ่าตัวตายของญี่ปุ่น ติดอันดับต้นๆ ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7 ชาติ หรือจี 7 แต่ด้วยความพยายามของรัฐบาล ทำให้อัตราการฆ่าตัวตายลดลงราวร้อยละ 40 ในระยะเวลา 15 ปี

จำนวนการฆ่าตัวตายเมื่อปี 2562 ลดลงไป 881 คน ทำให้ยอดรวมคนฆ่าตัวตายน้อยกว่า 20,000 รายเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มมีการจดบันทึกข้อมูลและสถิติเมื่อปี 2521 ข้อมูลของตำรวจระบุด้วยว่า อัตราการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่น ลดลงเหลือ 15.8 คนต่อประชากร 100,000 คน เมื่อเทียบกับสหรัฐ ที่อัตราการฆ่าตัวตาย อยู่ที่ 14 คนต่อประชากร 100,000 คนเมื่อปี 2560 แต่สหรัฐมีประชากรมากกว่าญี่ปุ่นเท่าตัว

ขณะที่ ผู้ชายฆ่าตัวตาย 13,937 คน และผู้หญิงฆ่าตัวตาย 6,022 คน ส่วนการฆ่าตัวตายมากที่สุดของญี่ปุ่น เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 ตอนนั้นมีคนฆ่าตัวตายถึง 34,427 คน

อย่างไรก็ตาม แม้ตำรวจไม่เปิดเผยเหตุผลที่จำนวนคนฆ่าตัวตายลดลง แต่เศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการที่รัฐบาลผุดโครงการป้องกันการฆ่าตัวตายเมื่อปี 2559 มีส่วนทำให้คนฆ่าตัวตายน้อยลง นอกจากนั้น รัฐบาลขยายศูนย์รับปรึกษาและแก้ไขปัญหา รวมถึงเพิ่มจำนวนสายด่วน และส่งอาสาสมัครเข้าช่วยเหลือผู้คนที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ ส่วนภาคเอกชน ก็ให้ความร่วมมือด้วยดี ด้วยการให้พนักงานกลับบ้านเร็วขึ้น เพื่อป้องกันพนักงานทำงานหนักเกินไป