โรคหัดระบาดในดีอาร์คองโก ตายแล้วเกือบ 5 พันคน
ดีอาร์คองโก เผชิญโรคหัดระบาดอย่างหนัก ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 5,000 ราย
วันนี้( 22 พ.ย.62) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โรคหัดระบาดอย่างหนักในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือ ดีอาร์คองโก ล่าสุดคร่าชีวิตประชาชนแล้วเกือบ 5,000 คน ในปีนี้ 2562 หลังจากโรคมรณะชนิดนี้ระบาดในทุกจังหวัดของประเทศ โดยเกือบ 1 ใน 4 ของประชาชน 1 ล้านคนติดเชื้อเฉพาะในปีนี้ปีเดียว
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงว่า นี้เป็นการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดและเร็วที่สุดในโลก ซึ่งขณะนี้ โรคหัดในดีอาร์คองโก คร่าชีวิตประชาชนได้มากกว่าการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาถึง 2 เท่า ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา
รัฐบาลดีอาร์คองโก และองค์การอนามัยโลก ประกาศโครงการฉีดวัคซีนฉุกเฉินในเดือนกันยายน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก ๆ มากกว่า 8 แสนคน แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ย่ำแย่, การโจมตีศูนย์สาธารณสุขของกลุ่มหัวรุนแรง และการเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข ล้วนแต่เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อความพยายามในการหยุดยั้งการระบาดของโรคหัด มีเด็ก 4 ล้านคนได้รับวัคซีน แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญ เตือนว่า จำนวนนี้ ยังไม่ถึงครึ่งของเด็กทั่วประเทศ และวัคซีนก็ไม่เพียงพอด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อโรคหัดในดีอาร์คองโก เป็นเด็กในวัยทารก
ทั้งนี้ โรคหัดเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง อาการเบื้องต้น ผู้ติดเชื้อจะมีน้ำมูกไหล, จาม และมีไข้ จากนั้นไม่กี่วันผู้ป่วยก็จะเป็นผื่นเริ่มต้นที่บริเวณใบหน้าก่อนลามไปทั่วร่างกาย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากอาการป่วยได้ แต่โรคหัดก็สามารถทำให้พิการได้ตลอดชีวิต และอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโรคนี้ทำให้เกิดอาการปอดบวม หรือโรคสมองอักเสบ หรือสมองบวมตามมาด้วย
อย่างไรก็ตามประเมินว่า ทั่วโลกจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัดในแต่ละปี สูงถึง 110,000 คน
เกาะติดข่าวที่นี่
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
