ไบเดนกล่าวต่อหน้าที่ประชุม UN ครั้งสุดท้าย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยต่อบรรดาผู้นำโลกที่สหประชาชาติเป็นครั้งสุดท้าย
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยต่อบรรดาผู้นำโลกที่สหประชาชาติเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ (อังคาร) ด้วยการประกาศว่า สงครามของรัสเซียในยูเครน ล้มเหลว และว่า การแก้ปัญหาทางการทูตระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ยังคงมีความเป็นไปได้
ไบเดน ซึ่งเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 เดือน ได้เดินขึ้นสู่แท่นหินอ่อนสีเขียวที่สมัชชาใหญ่ยูอ็น กล่าวถึงสงครามในยูเครน, ฉนวนกาซาและซูดาน ที่ยังเกิดขึ้นอยู่ และมีแนวโน้มว่า จะดำเนินต่อไปนานกว่าวาระประธานาธิบดีของเขา ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมกราคม
เขาพยายามทำให้ความตึงเครียดสงบ ขณะที่สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ อย่างฮามาสที่ยึดครองฉนวนกาซา ซึ่งดำเนินมายาวนานเกือบหนึ่งปี กำลังคุกคาม ลุกลามเข้าสู่เลบานอน โดยอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กว่า 1,000 แห่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ไบเดน กล่าวต่อสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ซึ่งมีสมาชิก 193 ประเทศ ว่า สงครามเต็มรูปแบบไม่ได้เป็นผลดีกับใคร แม้ว่า ขณะนี้ สถานการณ์จะทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่การแก้ปัญหาทางการทูต ยังคงมีความเป็นไปได้อยู่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้อิสราเอลและฮามาส สรุปเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและปล่อยตัวประกันที่มีสหรัฐฯ, กาตาร์และอียิปต์ ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้เข้าร่วมประชุม
การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน ยังถูกครอบงำด้วยการรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน อยู่ในห้องประชุมเพื่อฟังไบเดนพูดและเน้นย้ำถึงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อประเทศของเขาด้วย ซึ่งไบเดน บอกว่า ข่าวดีก็คือสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียนั้นล้มหลวในเป้าหมายหลักของเขา เขาตั้งเป้าที่จะทำลายยูเครน แต่ยูเครนยังคงเป็นอิสระ แต่เราไม่สามารถเหนื่อยล้า ไม่สามารถละสายตา และเราจะไม่เลิกให้การสนับสนุนยูเครน จนกว่ายูเครนจะได้รับชัยชนะด้วยสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน
ไบเดนยังได้ส่งถ้อยคำที่แข็งกร้าวไปยังผู้นำของฝ่ายที่กำลังทำสงครามกันในซูดานว่า “ขอให้ยุติสงครามได้แล้ว” ภายใต้ความเป็นผู้นำของไบเดน สหรัฐฯได้ให้การสนับสนุนด้านอาวุธมูลค่าหลายล้านดอลลาร์แก่ยูเครน และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ก็หนุนหลังยูเครน แต่ความขัดแย้งส่วนใหญ่อยู่ในภาวะชะงักงัน เนื่องจากรัสเซียยึดครองพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนไว้ได้ตั้งแต่ช่วงต้นสงคราม
หลังจากแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นครั้งที่ 79 แล้ว ประธานาธิบดีไบเดน ก็เดินทางออกจากสำนักงานใหญ่ยูเอ็น
ข่าวแนะนำ