ผู้นำเกาหลีใต้เรียกร้อง “เปิดรับชาวต่างชาติ” แก้วิกฤตประชากรอัตราเกิดต่ำ
ผู้นำเกาหลีใต้เรียกร้องรัฐบาลท้องถิ่น “เปิดรับชาวต่างชาติ” ตั้งถิ่นฐาน - ทำงาน แก้ปัญหาการขาดแคลนประชากร
วันนี้ (26 ก.ค. 67) ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.ค.) ว่า ความร่วมมือของรัฐบาลท้องถิ่นกับรัฐบาลกลางนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติตั้งถิ่นฐานในเกาหลีใต้ เพื่อแก้ไขวิกฤติประชากร
ในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้น ณ อำเภอฮงซ็อง จังหวัดชุงช็องใต้ ปธน.ยุน ซึ่งเป็นประธานการประชุมกับหัวหน้ารัฐบาลปกครองตนเองระบุว่า รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นควรดำเนินการมาตรการเชิงรุกเพื่อสนับสนุนให้ชาวต่างชาติตั้งถิ่นฐานและทำงานในสังคมเกาหลี เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนประชากรวัยทำงานเพิ่มมากขึ้น อัตราการเกิดต่ำ
ขณะเดียวกัน ปธน.ยุนเรียกร้องให้มีมาตรการสนับสนุนเพื่อช่วยให้ชาวต่างชาติและนักศึกษาต่างชาติสามารถตั้งถิ่นฐานในเกาหลีใต้ในฐานะสมาชิกชุมชนท้องถิ่น และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุ "ความฝันแบบชาวเกาหลี"
ข้อมูลคนเข้าเมืองระบุว่า เกาหลีใต้มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ 1.8 ล้านคน หรือเกือบ 5% ของประชากรทั้งหมด เมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2566 โดยในจำนวนนี้ 230,000 คนเป็นนักศึกษา
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศแผนการขยายขอบเขตสถานที่ทำงานที่ผู้ถือวีซ่า E-9 มีสิทธิ์ทำงาน
คณะกรรมการนโยบายแรงงานต่างชาติภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซู ของเกาหลีใต้ ระบุเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่า ผู้ถือวีซ่า E-9 สามารถสมัครทำงานเป็นผู้ช่วยในครัวในร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารจีน ญี่ปุ่น และอาหารตะวันตกได้ อีกทั้งนายจ้างในอุตสาหกรรมไม้และเหมืองแร่สามารถรับสมัครจ้างคนงานที่ถือวีซ่า E-9 ได้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ให้คำมั่นที่จะเพิ่มการออกวีซ่า E-9 เป็น 165,000 ใบในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 120,000 ใบในปี 2566 ทั้งนี้ พลเมืองของประเทศต่อไปนี้มีสิทธิ์ยื่นขอวีซ่า E-9 สำหรับภาคเกษตรกรรม, ประมง, การผลิต, การก่อสร้าง, ร้านอาหาร, โรงแรมและรีสอร์ต, ป่าไม้และเหมืองแร่ ได้แก่ บังกลาเทศ, กัมพูชา, จีน, ติมอร์ตะวันออก, อินโดนีเซีย, คีร์กีซสถาน, ลาว, มองโกเลีย, เมียนมา, เนปาล, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, ศรีลังกา, ไทย, อุซเบกิสถาน และเวียดนาม
ภาพจาก: AFP
ข่าวแนะนำ