นายกฯอังกฤษแพ้โหวตเบร็กซิต จ่อยุบสภา

วันนี้ ( 4 ก.ย. 62 )บรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคฝ่ายค้านอังกฤษ โหวตชนะรัฐบาลของ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนน 328 ต่อ 301  เพื่อขัดขวางไม่ให้จอห์นสัน  นำอังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยไม่มีข้อตกลง ส่งผลให้ นายจอห์นสัน ประกาศว่าเขาจะยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งใหม่

นายจอห์นสัน  บอกว่าเขาไม่ต้องการเลือกตั้ง แต่ถ้าสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเขา เขามีทางเลือกเดียวคือยุบสภา แล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ชัยชนะของพรรคฝ่ายค้านครั้งนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิก 21 คนของพรรคอนุรักษ์นิยม ฝ่ายรัฐบาล ที่เลือกโหวตมติให้ฝ่ายตรงข้าม  โดยไม่สนใจคำขู่ว่า พวกเขาจะต้องถูกขับออกจากพรรคอนุรักษ์นิยม หากท้าทายรัฐบาล

อย่างไรก็ตามในวันนี้ฝ่ายค้านจะหาทางผลักดันผ่านร่างกฏหมาย เพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีให้เจรจากับสหภาพยุโรป เพื่อขอเลื่อนเวลาการถอนตัวออกจากอียูไปเป็นวันที่ 31 ม.ค. ปีหน้า ซึ่งถือเป็นครั้งที่สามทั้งที่เส้นตายปัจจุบันอยู่ที่  31 ต.ค.ปีนี้ หลังเลื่อนมาจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

การพ่ายแพ้ของนายจอห์นสัน ทำให้เขากำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับนางเทเรซา เมย์  อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ล้มเหลวถึง 3 ครั้ง  เพราะไม่สามารถโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ให้หันมาสนับสนุนแผนเบร็กซิตของเธอ แต่จอห์นสัน ซึ่งเพิ่งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน  เคยให้สัญญาว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อทำข้อตกลงกับอียู และนำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยสมบูรณ์

สำหรับสมาชิก 21 คนของพรรคอนุรักษ์นิยม ที่เลือกโหวตมติฝ่ายค้าน รวมถึงหลานชายของอดีตนายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิล  และอดีตรัฐมนตรีคลัง 2 คน คือ ฟิลิป แฮมมอนด์ กับ เคนเนธ คลาร์ก