นิวซีแลนด์เตือน 'โรคหัด' ระบาดรุนแรงในโอ๊คแลนด์

วันนี้ (31 ส.ค.62) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์เรียกร้องให้บรรดาผู้ที่จะเดินทางทั้งเข้าและออกเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่สุดของนิวซีแลนด์ ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคหัด เพราะเมืองโอ๊คแลนด์ กำลังเผชิญหน้ากับการระบาดของโรคหัดครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 22 ปี โดยจูลี แอนน์ เกนเตอร์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ออกแถลงการณ์ในสัปดาห์นี้ว่า หากคนที่คิดว่าจะเดินทางเข้า หรือออกจากเมืองโอ๊คแลนด์ จะต้องแน่ใจก่อนว่าได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง ซึ่งรวมทั้งเด็กอายุตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปด้วย

ทั้งนี้ การระบาดของโรคหัด กำลังเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งประเทศร่ำรวย เช่น สหรัฐและเยอรมนี เนื่องจากยังมีพ่อแม่ผู้ปกครองบางส่วนไม่ยอมฉีดวัคซีนให้บุตรหลาน ด้วยเหตุผลด้านปรัชญา หรือความเชื่อทางศาสนา หรือมีความวิตกกังวลว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด, คางทูม และรูเบลลา หรือเอ็มเอ็มอาร์ หรือหัดเยอรมัน อาจทำให้ป่วยเป็นโรคออทิซึ่ม ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด

ในสหรัฐ มีผู้ป่วยโรคหัดมากกว่า 1,200 คน ใน 30 รัฐทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 2535 ขณะเดียวกันประเทศร่ำรวยอื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ก็พบผู้ป่วยโรคหัดสูงขึ้นในปีนี้ เฉพาะในนิวซีแลนด์ มีรายงานพบผู้ป่วยโรคหัดในปีนี้แล้ว 849 คน เป็นการระบาดรุนแรงที่สุดในนิวซีแลนด์ ตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งในจำนวนนี้ พบผู้ป่วยในเมืองโอ๊คแลนด์ ถึง 731 คน และเกือบ 1 ใน 3 ของผู้ป่วย เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุด เพราะการระบาดรวดเร็วมาก แต่การระบาดในพื้นที่นอกเมืองโอ๊คแลนด์ก็ถูกควบคุมอยู่ในขอบเขตจำกัด

ส่วนนายกรัฐมนตรีจาซิดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ เรียกร้องให้คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดไปรับวัคซีน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะสามารถป้องกันการระบาดของโรคหัดไม่ให้ระบาดได้อีก