จับตา! อนาคตกลุ่มนักรบแวกเนอร์ ในวันที่ไร้หัวหน้า “พริโกซิน”

จับตา! อนาคตกลุ่มนักรบแวกเนอร์ ในวันที่ไร้ “เยฟเกนี พริโกซิน” หลังเครื่องบินตกเสียชีวิต
การเสียชีวิตของเยฟเกนี พริโกซิน ทำให้เกิดคำถามว่าอนาคตของกลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ของเขาต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ?
กลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ที่นำโดยเยฟเกนี พริโกซิน มีบทบาทเด่นชัดมากขึ้นในปฏิบัติพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน ที่ซึ่งแวกเนอร์เข้าไปช่วยกองทัพรัสเซียสู้รบกับกองทัพยูเครน โดยเฉพาะที่สมรภูมิบัตห์มุตที่มีการสู้รบการอย่างหนักหน่วง แต่บทบาทของแวกเนอร์เริ่มลดถอยลงไปหลังพริโกซิน นำทัพแวกเนอร์มุ่งสู่มอสโก เพื่อโค่นผู้นำด้านกลาโหมของรัสเซียในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเดอะ การ์เดี้ยน รายงานว่า พริโกซินดูเหมือนจะกลับมาได้รับความไว้วางใจจากประธานาธิบดีปูตินอีกครั้ง หลังได้รับไฟเขียวให้เข้าไปปฏิบัติการในแอฟริกาแทน
ทั้งนี้ พริโกซิน นักธุรกิจที่ร่ำรวยและเคยต้องโทษในเรือนจำมาแล้ว เขาเป็นที่รู้จักในฉายานามพ่อครัวของปูติน เพราะบริษัทของเขาให้บริการจัดเลี้ยงอาหารให้กับทำเนียบเครมลิน
พริโกซินก่อตั้งกลุ่มแวกเนอร์ในปี 2014 และเริ่มปฏิบัติภารกิจสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียทางตะวันออกของยูเครน และเชื่อกันว่าแวกเนอร์มีส่วนช่วยเรื่องการผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซีย นอกจากนี้ กลุ่มแวกเนอร์ยังเข้าไปปฏิบัติการในแอฟริกาและตะวันออกกลางด้วย
ทั้งนี้ กองกำลังนักรบรับจ้างนั้นในทางเทคนิค ถือว่าเป็นองค์กรผิดกฎหมายในรัสเซีย แต่ในปี 2022 มีรายงาน กลุ่มแวกเนอร์จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทด้านการทหารเอกชน
ไม่นานมานี้ พริโกซินเพิ่งออกแถลงการณ์ สนับสนุนการรัฐประหารในไนเจอร์ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าแวกเนอร์มีบทบาทสำคัญต่อทำเนียบเครมลินอย่างไร และในสัปดาห์นี้ เขาเพิ่งโพสต์วีดีโอมาจากแอฟริกา แต่งกายตามเครื่องแบบของเขา ซึ่งดูเหมือนว่าปูตินให้อภัยเขาแล้ว และพริโกซินได้รับหน้าที่ใหม่แล้ว
โดยในวีดีโอ พริโกซินย้ำว่า เขากำลังรับสมัครผู้คนมาปฏิบัติการในแอฟริกา และเชิญชวนบรรดานักลงทุนจากรัสเซียให้ทุ่มเงินในสาธารณรัฐแอฟริกากลางผ่าน Russian House ซึ่งเป็นศูนย์วัตนธรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของแอฟริกากลางด้วย
ในช่วงเวลาที่เครื่องบินส่วนตัวของเขาตกจากท้องฟ้า รายงานข่าวระบุว่า บนเครื่องบิน นอกจากจะมีพริโกซินแล้ว ยังมีผู้นำระดับสูงของกลุ่มแวกเนอร์ด้วยหลายคน
หนึ่งในนั้นคือ ดมิทรี อัตคิน พันธมิตรที่ใกล้ชิดสุดของเขา และยังเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญของแวกเนอร์ โดยชื่อของแวกเนอร์ยังมาจากฉายาของเขาในการสื่อสารทางวิทยุด้วย
อัตคินคือผู้บัญชาการปฏิบัติการรบในซีเรียมาก่อน และเขาเป็นผู้จัดขบวนทัพของแวกเนอร์มุ่งสู่กรุงมอสโกในวันที่ก่อกบฎด้วย
สื่อสังคมออนไลน์ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับแวกเนอร์หลายรายยังเผยด้วยว่า มีสมาชิกอาวุโสของแวกเนอร์อีกหลายคนที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว
ในเวลานี้ จึงเกิดคำถามว่า กลุ่มแวกเนอร์จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ในวันที่ไม่มีพริโกซินและผู้นำอีกหลายคน จะไม่
จากรายงานของสื่อหลายสำนักพบว่า นักรบแวกเนอร์หลายร้อยคนที่ย้ายไปที่ฐานที่มั่นในเบลารุส ทยอยเดินทางออกจากเบลารุสแล้วเช่นกัน หลายคนไม่พอใจที่ได้ค่าจ้างที่ต่ำในเบลารุส ขณะที่ส่วนหนึ่งย้ายไปปฏิบัติภารกิจในแอฟริกา ทำให้จำนวนนักรบแวกเนอร์จากเดิมมีราว 5,000 คน แต่ตอนนี้เหลือเพียงหนึ่งในสี่เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ยังเกิดคำถามใหญ่อีกว่า แล้วแวกเนอร์ในแอฟริกาจะเป็นอย่างไร?
แม้มีการเอ่ยถึงหลายชื่อที่อาจจะมาแทนที่พริโกซิน แต่ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากทำเนียบเครมลินด้วยเช่นกัน และดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครโดดเด่นที่จะมาแทนที่พริโกซินได้
ทั้งนี้ อาณาจักรแวกเนอร์ในทวีปแอฟริกานั้น ทำหน้าที่หลากหลาย ทั้งปฏิบัติการปล่อยข่าวเท็จ ทำธุรกิจสีเทา ตลอดจนภารกิจนักรบรับจ้าง แต่ทั้งหมดทั้งมวล ต่างพึ่งพาสายสัมพันธ์ส่วนตัวที่พริโกซินและพันธมิตรใกล้ชิด ก่อร่างสร้างตัวมาหลายปี เช่น แวกเนอร์ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลทหารมาลี จนทำให้ฝรั่งเศสตัดสินใจยุติปฏิบัติการทางทหารในมาลีที่ยาวนานมานับทศวรรษไป
ขณะที่ทำเนียบเครมลินนั้น มักใช้วิธีการติดต่อสื่อสารโดยตรงกับผู้นำทหารในชาติของภูมิภาคซาเฮลเอง แต่สำหรับพริโกซิน เขาใช้วิธีพัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบรรดานักการเมือง นักธุรกิจ ผู้นำรัฐประหาร ผู้นำกองทัพ ในพื้นที่ดังกล่าวแทน
พลอากาศตรี ฌอน เบลล์ ซึ่งขณะนี้เป็นนักวิเคราะห์ด้านการทหาร บอกกับเดอะ การ์เดี้ยน ว่า หากไม่มีพริโกซิน แวกเนอร์ก็ไม่มีอะไรเลย...ถ้ากลุ่มแวกเนอร์คือเยฟเกนี พริโกซิน นั่นก็จะเป็นเรื่องยากที่จะเห็นแวกเนอร์รอดมาได้ และนี่ก็คือจุดจบ
ภาพจาก : รอยเตอร์