TNN online ‘ไบเดน’ ตั้งใจลงเลือกตั้งสมัย 2 โล่งอกเดโมแครตทำได้ดีกว่าที่คาด

TNN ONLINE

World

‘ไบเดน’ ตั้งใจลงเลือกตั้งสมัย 2 โล่งอกเดโมแครตทำได้ดีกว่าที่คาด

‘ไบเดน’ ตั้งใจลงเลือกตั้งสมัย 2 โล่งอกเดโมแครตทำได้ดีกว่าที่คาด

ผลการเลือกตั้งกลางเทอมส่วนใหญ่ออกมาแล้ว ‘โจ ไบเดน’ ผู้นำสหรัฐฯ และอดีตประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ มีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง



ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงครั้งแรก หลังผลเลือกตั้งกลางเทอมออกมา ระบุว่า “คลื่นยักษ์สีแดง” ไม่ได้เกิดขึ้น โล่งอกเดโมแครตทำได้ดีกว่าที่คาด พร้อมประกาศความตั้งใจจะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 


ขณะที่อดีตประธานาธบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ระบุผลเลือกตั้งน่าผิดหวังไปบ้าง


---ไบเดนระบุ เป็นวันดี ๆ ของประชาธิปไตย---


ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แถลงครั้งแรกหลังผลการเลือกตั้งกลางเทอมส่วนใหญ่ออกมาแล้ว ระบุการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นวันดี ๆ ของประชาธิปไตย ไบเดนกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ทำให้เขาหายใจได้อย่างโล่งอก 


ไบเดนมีท่าทีร่าเริงอารมณ์ดีในระหว่างการแถลงข่าวดังกล่าว ระบุว่า เดโมแครตส์ทำได้ดีกว่าที่คาดในการเลือกตั้งกลางเทอม แต่ขณะเดียวกัน เขายอมรับว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้ แสดงว่า ชาวอเมริกันยังคงรู้สึกท้อแท้ผิดหวัง


ในการแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนนี้ (9 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่น ไบเดนระบุว่า “คลื่นยักษ์สีแดง” ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่คาดหมายกันก่อนการเลือกตั้ง 


ทั้งนี้ สีแดงเป็นสีประจำพรรครีพับลิกัน พร้อมกับกล่าวว่า เขาพร้อมทำงานร่วมกับพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส 


โอกาสนี้ ไบเดนเปิดเผยด้วยว่า เขามีความตั้งใจจะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 แต่เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของครอบครัวด้วย โดยเขาจะประกาศการตัดสินใจสุดท้ายในช่วงต้นปีหน้า ทั้งนี้ ไบเดนกำลังจะครบรอบวันเกิดอายุ 80 ปีในเดือนพฤศจิกายนนี้ 


ไบเดนกล่าวว่า ครอบครัวต้องการให้เขาทำงาน และเขาก็ไม่รู้สึกรีบร้อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้าย พร้อมระบุว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้ง 2020 ที่ส่งสัญญาณว่าจะลงชิงชัยในปี 2024 เช่นกัน 


นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่าทุกอย่างต้องทำ “ภายใต้ความพยายามที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัฐธรรมนูญของเรา” เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง


---ลุ้นผลเลือกตั้งกลางเทอม---


เมื่อถูกถามว่าเขาอยากเผชิญหน้าใครในปี 2024 ทรัมป์หรือรอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาของพรรครีพับลิกัน ไบเดนกล่าวเพียงว่า “คงจะสนุกที่ได้ดูพวกเขาต่อสู้กันเอง”


คำกล่าวของไบเดนมีขึ้น ทั้ง ๆ ที่ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการล่าสุดบ่งชี้ว่า พรรครีพับลิกันจะสามารถแย่งสภาผู้แทนราษฎรไปครองได้ 


ส่วนวุฒิสภาก็อยู่ในสภาพลูกผีลูกคน ต้องรอดูผลเลือกตั้งวุฒิสมาชิกใน 3 รัฐชี้ขาด โดย 1 ในนั้น คือ รัฐจอร์เจีย ที่ถึงกับต้องจัดการเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 6 ธันวาคม 


นั่นหมายความว่า หากจอร์เจียเป็นรัฐสุดท้ายที่ชี้ขาดผลการเลือกตั้งวุฒิสภา ก็จะต้องรอไปจนถึงวันที่ 6 ธันวาคมนี้ จึงจะรู้ว่าพรรคใดจะได้ครองวุฒิสภา


แต่ไม่ว่ารีพับลิกันจะชนะเพียงสภาเดียว หรือ 2 สภา ก็จะสามารถขัดขวางการขับเคลื่อนร่างกฎหมายของไบเดนและเดโมแครตได้


ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์มองว่า หากพรรคเดโมแครตพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้ ไบเดนอาจต้องเผชิญกับเสียงเรียกร้องจากพรรคฝ่ายซ้าย เพื่อยืนยันว่าเขาจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย แต่ตามธรรมเนียมปฏิบัติสมาชิกพรรคต้องเปิดทาง หากประธานาธิบดีต้องการลงชิงชัยเป็นสมัยที่ 2 


‘ไบเดน’ ตั้งใจลงเลือกตั้งสมัย 2 โล่งอกเดโมแครตทำได้ดีกว่าที่คาด



---ทรัมป์ชี้ ผลเลือกตั้งน่าผิดหวังอยู่บ้าง---


ขณะเดียวกัน ทางด้านอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เปิดแถลงข่าวเช่นกัน เขายอมรับว่า ผลการเลือกตั้งกลางเทอม “น่าผิดหวังอยู่บ้าง” หลังจากผู้สมัครที่ได้รับการรับรองจากเขา พ่ายแพ้ไปหลายคน และมีข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันบางคน เริ่มตีตัวออกห่างจากทรัมป์แล้ว


ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ทรัมป์ วัย 76 ปี เตรียมประกาศข่าวใหญ่ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ที่มาร์ อะ ลาโก ในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ซึ่งคาดกันว่าข่าวที่ทรัมป์จะประกาศ คือ การลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย


ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ประกาศในช่วงเวลานี้ ทรัมป์ให้เหตุผลว่า เขาไม่ต้องการให้มีสิ่งใดมาเบี่ยงเบนความสำคัญของการเลือกตั้งกลางเทอมที่มีขึ้นในวันอังคารนี้ (8 พฤศจิกายน) ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับช่วงค่ำวานนี้ (9 พฤศจิกายน) ตามเวลาในไทย


---ลงประชามติต่อประธานาธิบดี---


การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ ทั้งหมด 435 ที่นั่ง ซึ่งพรรคการเมืองที่คว้าที่นั่งอย่างน้อย 218 ที่นั่ง จะได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง โดยก่อนหน้านี้พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอยู่ 


รวมถึงยังมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา 35 ที่นั่งที่หมดวาระในการเลือกตั้งกลางเทอมนี้ จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง โดยพรรคที่คว้าที่นั่งอย่างน้อย 51 ที่นั่งจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาสูง ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอยู่ด้วยเช่นกัน


ผลการเลือกตั้งกลางเทอมมักถูกมองว่า เป็นการลงประชามติต่อประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง หากประธานาธิบดีมีคะแนนนิยมต่ำกว่า 50% พรรครัฐบาลมักจะเสียที่นั่งในรัฐสภา


ขณะที่ ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos ระบุว่า ไบเดนมีคะแนนนิยมต่ำกว่า 50% มานานกว่าหนึ่งปี โดยตกมาอยู่ที่ 40% และวันที่ 7 พฤศจิกายน คะแนนนิยมของไบเดน หล่นมาอยู่ที่ 39% 


นอกจากนี้ ในการสำรวจเดียวกันยังเผยว่า 69% ของชาวอเมริกันเชื่อว่าประเทศกำลังอยู่ผิดที่ผิดทาง และมีเพียง 18% เท่านั้นที่บอกว่ามาถูกทาง

—————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ 

ภาพ: Reuters


ข้อมูลอ้างอิง:

The Straits Times


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง