WHO เตือนสถานการณ์โรค "ฝีดาษลิง" มีแนวโน้มทวีความรุนแรง

วันนี้ (4 มิ.ย.65) การแข่งขันเพื่อผลิตชุดตรวจหาเชื้อฝีดาษลิง ของบรรดาบริษัทยาต่างๆ เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคล้ายกับบรรยากาศ เมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่มีการแข่งขักันผลิตชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19  แม้ว่าความต้องการชุดตรวจโรคฝีดาษลิง ยังมีปริมาณน้อยและยังเทียบไม่ได้กับความต้องการชุดตรวจไวรัสโควิด-19 

เนื่องจากโรคฝีดาษลิงไม่ได้แพร่เชื้อได้โดยง่ายและไม่เป็นอันตรายเท่าโรคโควิด-19  รวมทั้งยังมีวัคซีนโรคฝีดาษลิง และมีวิธีการรักษารวมถึงการตรวจ ที่สามารถช่วยหยุดยั้งการระบาดของโรคฝีดาษลิงได้ ไม่เหมือนการอุบัติขึ้นอย่างกะทันหันของโรคโควิด-19 การทำตลาดใหม่ชุดตรวจฝีดาษลิง จึงไม่น่าจะเทียบได้กับยอดขายชุดตรวจไวรัสโควิด-19 แม้ว่าขณะนี้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง เพิ่มมากขึ้น 

สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงที่มีการยืนยันแล้ว กระจายอยู่ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป และไม่ได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเดินทางไปยังแอฟริกา ที่กำหนดให้โรคฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว 

ด้าน สำนักงานความมั่นคงด้านสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร  แถลงว่า โรคฝีดาษลิงในอังกฤษ จะระบาดจากคนสู่คน ซึ่งโรคนี้มีอาการไม่รุนแรง และที่ผ่านมาไม่เคยระบาดออกนอกแอฟริกา จนกระทั่งพบการแพร่ระบาดในยุโรป เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

การระบาดในขณะนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ไวรัสโรคฝีดาษลิง แพร่เชื้อจากคนสู่คนในอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปยังประเทศที่กำหนดให้โรคนี้เป็นโรคประจำถิ่น

จากข้อมูลของ สำนักงานความมั่นคงด้านสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ยังพบว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร จำนวน 132 คน อยู่ในกรุงลอนดอน ซึ่งในจำนวนนี้ มีถึง 111 คน เป็นผู้ชาย ส่วนอีก  2 คน เป็นผู้หญิง  โดยสำนักงานสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร กำลังเสนอวัคซีน “อิมวาเนกซ์” ของบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก ฉีดให้กับผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันแล้ว หรือผู้ต้องสงสัย

ด้าน องค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป เตือนว่า สถานการณ์โรคฝีดาษลิง มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น การแพร่ระบาดของไข้ทรพิษวานร หรือ ฝีดาษลิง ในประเทศต่างๆ นอกทวีปแอฟริกาหลังจากนี้ มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อนอกทวีปแอฟริกามากกว่า 550 คนแล้ว นับตั้งแต่เริ่มพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อใน 12 ประเทศของสหภาพยุโรป (EU) ถึง 321 คน ส่วนจำนวนที่เหลือพบในสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ยังให้ข้อมูลด้วยว่า แม้มีการแพร่ระบาดที่ไม่ปกติของโรคฝีดาษลิง แต่ประชาชน ยังสามารถเข้าร่วมงานไพรด์พาเหรด (Pride parades) ของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่จัดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ในช่วงฤดูร้อนนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก ประจำภูมิภาคยุโรป แสดงความวิตกกังวลว่า ในช่วงฤดูร้อนนี้ ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรป มีงานเทศกาล และกิจกรรมใหญ่ๆ อาจส่งผลทำให้โรคฝีดาษลิงแพร่ระบาดมากขึ้น พร้อมแจ้งเตือนให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการความพร้อมเพื่อรับมือ

ภาพจาก AFP