ปูตินย้ำจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิล ยุโรปหวั่นอุปทานชะงักงัน

Editor’s Pick: ก่อนหน้านี้รัสเซียเรียกร้องให้ประเทศที่ 'ไม่เป็นมิตร' ต่อรัสเซีย ต้องจ่ายค่าพลังงานเป็นสกุลเงินรูเบิล  ล่าสุดผู้นำเยอรมนีซึ่งปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว ได้ยกหูโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน  

---เยอรมนีเตือนให้คนประหยัดพลังงาน---

โฮเบิร์ต ฮาเบ็ก รองนายกรัฐมนตรีที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี ประกาศเตือนแต่เนิ่น ๆ ขอให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนช่วยกันประหยัดพลังงาน เพราะเกรงว่ารัสเซียอาจลดการส่งออกก๊าซธรรมชาติมาให้ หากไม่ชำระเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซียที่อ่อนค่าลงมาก หลังจากถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร แต่ยืนยันว่าการประกาศเตือนดังกล่าวเป็นการป้องกันล่วงหน้าเท่านั้น เนื่องจากรัสเซียยังคงส่งก๊าซธรรมชาติตามสัญญาที่ทำไว้ และเป็นการเตือนระดับ 1 จากทั้งหมด 3 ระดับ และว่ารัฐบาลได้ตั้งทีมงานขึ้นติดตามสถานการณ์ปริมาณก๊าซของประเทศแล้ว โดยหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นหลังจากนี้ อาจต้องพิจารณาดำเนินมาตรการเพิ่มเติม เช่นการปันส่วนก๊าซ

---ชาติยุโรปลดการนำเข้าพลังงานรัสเซีย---

ปัจจุบัน เยอรมนีนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียลดลงจาก 55% เหลือ 40% และลงนามนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป ขณะนี้เหลือก๊าซคงคลัง 25% ซึ่งจะใช้ได้นานเพียงใดขึ้นกับปริมาณการใช้งานและสภาพอากาศ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ฮาเบ็กยอมรับว่า เยอรมนียังคงไม่สามารถเลิกพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียได้เต็มรูปแบบ อย่างน้อยก็ก่อนถึงช่วงกลางปี 2024 แต่ก่อนหน้านี้ คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของเยอรมนียังคงยืนกรานว่า จะจ่ายเงินค่าก๊าซเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ หรือยูโรเท่านั้น ตามข้อตกลงฉบับปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีมาเตอุช โมราเวียตสกี ของโปแลนด์แถลงว่า โปแลนด์ได้ลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซียลงมากแล้ว และกำลังนำเสนอแผนต่อชาติยุโรปเรื่องเลิกพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียโดยสิ้นเชิง เขาคาดว่า โปแลนด์จะลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะได้หันไปนำเข้าจากกาตาร์ สหรัฐฯ และนอร์เวย์ 

เมื่อวานนี้ทางการโปแลนด์ประกาศว่า กำลังห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย และขอให้ประเทศยุโรปอื่น ๆ ลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่ารัสเซียนำรายได้จากการส่งออกน้ำมันและก๊าซไปใช้ทำสงครามกับยูเครน รวมถึงขอให้คณะกรรมาธิการยุโรปที่เป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรปหรืออียู เก็บภาษีเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนจากรัสเซียทั้งหมด

---รัสเซียร่างวิธีชำระเป็นรูเบิล---

รัสเซียเตรียมร่างวิธีการปฏิบัติเพื่อกำหนดให้บริษัทต่างชาติชำระค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิล เพิ่มความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดภาวะชะงักงันในการจัดส่งก๊าซ เพราะจนถึงขณะนี้ ชาติตะวันตกยังปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซียให้ชำระด้วยสกุลเงินรูเบิล

รัสเซีย แถลงว่า จะร่างแนวทางปฏิบัติให้บริษัทต่างชาติจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินสกุลรูเบิลของรัสเซียในวันพฤหัสบดีนี้ (31 มี.ค.)  ซึ่งยิ่งเพิ่มความน่าจะเป็นในการเกิดภาวะหยุดชะงักของอุปทาน เนื่องจากจนถึงขณะนี้ ชาติตะวันตกปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซียในการเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินรูเบิล โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งให้ประเทศที่ “ไม่เป็นมิตร” จ่ายค่าก๊าซให้รัสเซียเป็นเงินรูเบิล ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้น หลังจากอ่อนค่าต่อเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย กรณียกทัพบุกยูเครน

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร (29 มี.ค.) ว่า ไม่มีใครจะจัดหาก๊าซให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และต้องจ่ายเป็นสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น

---ยุโรปวิจารณ์ผิดสัญญา---

การเคลื่อนไหวดังกล่าว เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากประเทศยุโรป ซึ่งจ่ายค่าก๊าซให้รัสเซียด้วยเงินยูโรเป็นส่วนใหญ่ และกล่าวว่า รัสเซียไม่มีสิทธิยกเลิก หรือเปลี่ยนสัญญา โดยประเทศสมาชิก G-7 ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซียในสัปดาห์นี้ 

ราคาก๊าซขายส่งในยุโรป ทะยานขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันของอุปทาน

เปสคอฟ กล่าวว่า ตามกำหนดเส้นตายวันที่ 31 มีนาคมนี้ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยประธานาธิบดีปูติน "วิธีการทั้งหมดได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ระบบนี้ง่าย เข้าใจได้ และเป็นไปได้สำหรับผู้ซื้อในยุโรปและระหว่างประเทศ" แต่สำหรับกลุ่มประเทศ G7 เรียกร้องให้บรรดาบริษัทไม่ยอมรับการชำระด้วยเงินรูเบิล และว่าสัญญาการจัดส่งก๊าซส่วนใหญ่ กำหนดการชำระเป็นเงินยูโร หรือดอลลาร์สหรัฐ

กรรมาธิการยุโรป แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหภาพยุโรป หรืออียู กำลังประเมินสถานการณ์ ซึ่งรวมทั้งการหยุดจัดส่งก๊าซของรัสเซียทั้งหมดในช่วงฤดูหนาว ปีหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนฉุกเฉินสำหรับภาวะชะงักงันของอุปทาน 

—————

ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด

https://bit.ly/TNNRussiaInvasion

—————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters