วิกฤตยูเครน...โอกาสโสมแดง? อเมริกาชี้ ไม่หวั่นเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธ
เกาหลีเหนืออาจฉวยโอกาสจากวิกฤตยูเครน ทดสอบขีปนาวุธต่อเนื่อง
---สหรัฐฯ ไม่ละสายตาจากเกาหลีเหนือ---
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ยังคงมีแนวโน้มที่เกาหลีเหนือจะทำการทดสอบอาวุธที่ทรงพลังต่อไปอีก ซึ่งอาจรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ Intercontinental ballistic missile (ICBM) ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับมอสโกเพิ่มมาขึ้นเรื่อย ๆ ต่อความวิตกกังวลที่ว่ารัสเซียจะเดินหน้าบุกยูเครน แม้ว่าเวลานี้มีรายงานว่า รัสเซียเริ่มถอนทหารกลับฐานทัพเดิมบ้างแล้วก็ตาม
โดยในการประชุมหารือ 3 ฝ่าย ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แอนโทนี บลิงเคน ให้คำมั่นกับ 2 ชาติมหามิตรแห่งเอเชียตะวันออกว่า “วิกฤตยูเครนจะไม่กระทบต่อความสามารถของสหรัฐฯ ในการรับมือกับเกาหลีเหนือแต่อย่างใด”
“ผมจะไม่ยกเลิกความคิดที่ว่า เกาหลีเหนือจะยังคงเดินหน้าพฤติกรรมยั่วยุต่อไปอีก แม้ทั่วโลกจะมีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงวิกฤตยูเครนด้วย”
---แดนมะกันทำหลายอย่างได้พร้อมกัน---
ขณะที่สหรัฐฯ จับตาไปยังวิกฤตยูเครนอย่างใกล้ชิด เพราะข่าวกรองได้เปิดเผยว่า มีโอกาสที่รัสเซียจะเดินหน้าบุกยูเครนในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น แต่บลิงเคนก็ยังย้ำกับ 2 ชาติมหามิตรว่า วิกฤตยูเครนนั้น ไม่ได้ทำให้โฟกัสต่อภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือลดน้อยลงแต่อย่างใด
โดยระบุว่าสหรัฐฯ สามารถ “เดินและเคี้ยวหมากฝรั่งไปพร้อม ๆ กันได้” ท่ามกลางความท้าทายหลากหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
บลิงเคนย้ำว่า สหรัฐฯ และ 2 ชาติมหามิตรจะเดินหน้า “ทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกในการรับมือกับเกาหลีเหนือ” หลังจากที่ได้เดินหน้าทดสอบชีปนาวุธมากถึง 7 ครั้งแล้วในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นการทดสอบในเดือนเดียวที่มากที่สุด พร้อมกันนี้ ก็พยายามผลักดันให้เกิดการเจรจาและเวทีหารือทางการทูตเกิดขึ้น
---โสมแดงเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธ---
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง Hwasong-12 เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งญี่ปุ่นระบุว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าวมีพิสัยไกลถึง 5,000 กิโลเมตร หากยิงเต็มกำลัง ซึ่งเป็นระยะที่ทั้งญี่ปุ่น และเกาะกวมของสหรัฐฯ อยู่ในรัศมีการยิง
นับเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือทดสอบชีปนาวุธพิสัยกลาง นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2017 หรือเกือบ 5 ปีก่อน โดยมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือกล่าวเป็นนัยว่า จะยกเลิกการยุติกิจกรรมทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลและโครงการนิวเคลียร์ พร้อม ๆ กับเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุตินโยบายที่เป็นศัตรูต่อเกาหลีเหนือลงเสีย
และนั่นหมายความว่า ต่อไปจากนี้อาจได้เห็น คิม จองอึน นั่งควบคุมการทดสอบอาวุธที่ทรงพลังมากขึ้น หลังจากที่ยุติมานาน
บลิงเคนชี้ว่า มันชัดเจนอยู่แล้วที่ว่าเกาหลีเหนือยู่ในระดับการยั่วยุที่มากขึ้น ซึ่งขัดต่อแนวทางของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และจะไม่ละสายตาจากเกาหลีเหนือ พร้อม ๆ กับจะหาทางสมานช่องทางทางการทูตให้ได้ด้วย
---เกาหลีเหนือกำลังซุกปัญหาไว้ใต้พรม?---
ชิน ซึงกิ นักวิจัยแห่งสถาบันเกาหลีเพื่อการป้องกัน (KIDA) ระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือต้นปีนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือพยายามขยายขอบเขตด้านการทหาร และพยายามที่จะควบคุมพลเมืองให้อยู่กับร่องกับรอย ไปพร้อม ๆ กับการเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งบลิงเคนระบุว่า เกาหลีเหนือเอง กำลังเรียกร้องความสนใจจากสหรัฐฯ อยู่
ขณะที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า พร้อมเปิดกว้างในการเจรจากับเกาหลีเหนือโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขใด ๆ แต่ข้อเสนอเหล่านั้นถูกปฏิเสธ เนื่องจากเกาหลีเหนือเอง มีการตั้งเงื่อนไขบางอย่าง ก่อนที่จะให้มีการเจรจาเกิดขึ้น
การที่เกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ ยังช่วยให้โครงการนี้ของรัฐบาลทรงพลังมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ในประเทศที่เผชิญวิกฤตด้านเศรษฐกิจ ที่นักวิเคราะห์มองว่า เป็นหนึ่งในความพยายามในการเบี่ยงเบนความสนใจ จากปัญหาในประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ด้วย
ทั้งยังถูกมองว่า กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นความภาคภูมิใจของประชาชน ก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดสำคัญ คือ ครบรอบวันคล้ายวันเกิด 80 ปี ของคิม จอง-อิล บิดาผู้ล่วงลับของคิม จองอึน ซึ่งตรงกับวันพุธ (16 กุมภาพันธ์) และครบ 110 ปี คิม อิล-ซุง ปู่ผู้ก่อตั้งประเทศ ในวันที่ 15 เมษายนนี้