ทองคำสัปดาห์หน้าผันผวนจับสัญญาณเฟดลดคิวอี-ขึ้นดอกเบี้ย

น.ส.เบญจมา มาอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า  ทิศทางราคาทองคำต้นสัปดาห์หน้าปรับตัวขึ้น นักลงทุนหันมาซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI เดือนพ.ย.พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี

ทั้งนี้ในกลางสัปดาห์ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่14-15 ธ.ค.นี้ และติดตาม DOT PLOT  เกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยการลดคิวอี ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางทองคำในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตลาดคาดว่าเฟดจะลดคิวอีเดือนละ3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐซึ่งจะทำให้คิวอีสิ้นสุดเร็วขึ้น และนำไปสู่การปรับขึ้นดอก เบี้ยกี่ครั้ง

ทั้งนี้หากขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งปีหน้าคาดว่าทองคำจะดีดปรับตัวขึ้น แต่ถ้าขึ้น 2-3 ครั้งตามตลาดคาดการณ์ราคาทองคำจะปรับตัวลง โดยประเมินกรอบแนวรับแรกไว้ที่ 1,767 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แนวรับถัดไปที่ 1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แนวต้านที่ 1,808-1,821 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

สำหรับทองคำต่างประเทศหากแตะ1,751  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งในประเทศอยู่ที่ 27,750 บาท ถ้าแตะที่ 1,767 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งในประเทศอยู่ที่ 28,000 บาท

หากราคาต่างประเทศอยู่ที่ 1,821 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งในประเทศอยู่ที่ 28,850 บาท แต่ถ้าต่างประเทศแตะที่ระดับ1,808 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งในประเทศอยู่ที่ 28,650 บาทคิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 

นอกจากนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต  ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ย. และดัชนี PMI เดือนธ.ค. การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตลอดจนการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน 

ที่มา :   น.ส.เบญจมา มาอินทร์  

ภาพประกอบข่าว : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด