TNN online หุ้นไทยปิดลบ 0.13 จุด เผชิญแรงเทขายทำกำไรก่อนหยุดยาว

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยปิดลบ 0.13 จุด เผชิญแรงเทขายทำกำไรก่อนหยุดยาว

หุ้นไทยปิดลบ 0.13 จุด เผชิญแรงเทขายทำกำไรก่อนหยุดยาว

ดัชนีหุ้นไทยปิดปรับตัวลง 0.13 จุด ที่ 1,618.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69,711.75 ล้านบาท เผชิญแรงเทขายทำกำไรและลดเสี่ยงก่อนหยุดยาว แม้จะคลายกังวลโควิด โอไมครอน

วันนี้( 9 ธ.ค.64)  ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,618.23 จุด ปรับลดลง 0.13 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.01 % มูลค่าการซื้อขาย 69,703.33 ล้านบาท โดยหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ จากการเผชิญกับแรงขายทำกำไรและลดความเสี่ยงก่อนช่วงวันหยุด แม้มีปัจจัยบวกจาก บริษัทผู้ผลิตวัคซีน อย่าง ไฟเซอร์อิงค์ ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าวัคซีนของไฟเซอร์ จำนวน 3 โดส มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ โอไครอน ก็ตาม


บล.ไอร่า เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มเห็นการกลับเข้าซื้อหุ้นกลุ่มขนส่ง จากความต้องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในช่วงไฮซีซั่นรวมทั้งภาพเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้น จากโควิด-19 และการผ่อนคลายความกังวลไวรัสโอไมครอนที่คาดว่าจะผลักดันหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัว ขึ้นได้ต่อ และ ธปท. เตรียมแก้กฎหมาย เกี่ยวกับการลดข้อจำกัดของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพื่อรับมือกับหนี้เสียในช่วงปีหน้า คาดว่าทำให้กลุ่ม บลจ.บริหารสินทรัพย์ของหน่วยงานของรัฐได้ และให้ธนาคารพาณิชย์ร่วมทุนกับ บลจ. เพื่อตั้งบริษัทร่วมกันได้ ซึ่งคาดจะช่วยลดหนี้เสียในระบบให้ลดลงได้เร็ว 


ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ปรับตัวขึ้น โดยตลาดบ้านเราพักฐานหลังจากเผชิญแรงขายทำกำไรก่อนที่จะหยุดระยะยาว และในวันพรุ่งนี้ก็จะมีตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯออกมา ทำให้นักลงทุนคงจะเลือกที่จะขายลดความเสี่ยงก่อน เพราะถ้าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯเร่งตัวขึ้นมาก็จะมีผลต่อการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า


ขณะเดียวกันยังรอดูผลการศึกษาเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะเป็นอย่างไร และวัคซีนต้านโควิดที่มีอยู่จะใช้ได้ผลแค่ไหน ซึ่งผลการศึกษาน่าจะทยอยออกมาในอีกไม่นานนี้


ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่า นักลงทุนยังจะต้องจับตาเฟดว่าจะมีการเร่งปรับลด QE หรือไม่ เพราะจะส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯด้วย  มองแนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด


สำหรับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด3 อันดับได้แก่ 

KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  3,024.59 ล้านบาท  ปิดที่  139.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.50 บาท

JAS        มูลค่าการซื้อขาย  2,194.79 ล้านบาท  ปิดที่    3.24 บาท เพิ่มขึ้น  0.16 บาท

CPALL   มูลค่าการซื้อขาย  1,984.78 ล้านบาท  ปิดที่   58.50 บาท ลดลง   0.50 บาท

หุ้นไทยปิดลบ 0.13 จุด เผชิญแรงเทขายทำกำไรก่อนหยุดยาว



ที่มา : บล.ไอร่า   , บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)   ,marketdata.set.or.th

ภาพประกอบ:  AFP ,TNN Online


 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง