TNN online หุ้นไทยปิดบวก 9.08 จุด ได้แรงหนุนกลุ่มสื่อสาร-ธนาคาร หลังคลายวิตกโอไมครอน

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยปิดบวก 9.08 จุด ได้แรงหนุนกลุ่มสื่อสาร-ธนาคาร หลังคลายวิตกโอไมครอน

หุ้นไทยปิดบวก 9.08 จุด ได้แรงหนุนกลุ่มสื่อสาร-ธนาคาร หลังคลายวิตกโอไมครอน

ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,618.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.08 จุด ได้แรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มสื่อสารและธนาคาร หลังคลายกังวลโควิดโอไมครอน - ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น

วันนี้ (8 ธ.ค.64 ) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,618.36 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 9.08 จุด หรือ 0.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69,262.91 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,621.21 จุด และดัชนีปรับตัวต่ำสุด 1,610.30 จุด  โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน แม้รายงานล่าสุดพบว่าสายพันธุ์ดังกล่าวลดภูมิต้านทานได้ถึง 41 เท่า แต่ความรุนแรงและอาการยังน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า  รวมทั้งปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นทำให้ดัชนีกลับมาฟื้นตัว 


นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 0.5% ปิดที่ 1,618 จุด ได้แรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มสื่อสารและธนาคาร รวมถึงหุ้นที่ปรับขึ้นช้ากว่าตลาด (แลกการ์ด) อย่างกลุ่มไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นไปในทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัว หลังจากความกังวลในการกลายพันธุ์ของโอไมครอนคลายตัวต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่า SET Index จะแกว่งออกข้างขาขึ้น (Sideway up) ทดสอบแนวต้าน 1,623-1,625 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,613-1,615 จุด โดยหุ้นขนาดกลางเล็กมีโอกาสกลับมาสร้างสีสันก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว


ด้านนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เช่นเดียวกับภูมิภาคเอเชียต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก และตลาดในยุโรป เนื่องจากคลายกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ตลาดฯรีบาวด์ขึ้น นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ที่รีบาวด์ขึ้นมา ซึ่งหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ก็รีบาวด์ขึ้นมากหลังราคายัง Laggard ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องที่ทาง สคบ. จะรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 3-17 ธ.ค. 2564 ที่เป็นร่างประกาศคุมสัญญาเช่าซื้อรอบที่ 2 ซึ่งผ่อนคลายมากขึ้นกว่าร่างรอบแรก


ทั้งนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของจีนจะออกมาในวันพรุ่งนี้ และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันที่ 10 ธ.ค. ส่วนสัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมหลายธนาคารกลางสำคัญ โดยเฉพาะการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)  ส่วนพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดฯคงจะมีวอลุ่มเทรดบางลงก่อนที่จะหยุดยาว แต่ก็อาจมีเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กได้ พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,625 จุด


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) กล่าวว่า ในปี 65 คาดว่าดัชนีหุ้นไทย มีโอกาสขึ้นไปถึงระดับ 1,800 จุดได้ เนื่องจากเชื่อว่าตลาดยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจเราเติบโตช้ากว่าประเทศอื่น ๆ จึงทำให้บางส่วนถูกอั้น ขณะที่แนวโน้มอัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตประมาณ 12% จากปีนี้ที่คาดจะโต 50% ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ และคาดว่าปีหน้าน่าจะมีการยุบสภา และการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยเชื่อว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะใช้จังหวะดังกล่าวออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการจัดการเลือกตั้ง


สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ 

1. KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  2,814.54 ล้านบาท  ปิดที่  137.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

2. CPALL   มูลค่าการซื้อขาย  2,120.73 ล้านบาท  ปิดที่   59.00 บาท ลดลง   0.50 บาท

3. ADVANC  มูลค่าการซื้อขาย  1,693.52 ล้านบาท  ปิดที่  220.00 บาท เพิ่มขึ้น  9.00 บาท

         

หุ้นไทยปิดบวก 9.08 จุด ได้แรงหนุนกลุ่มสื่อสาร-ธนาคาร หลังคลายวิตกโอไมครอน

ที่มา : บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)  , บล.ฟินันเซีย ไซรัส   ,สภาธุรกิจตลาดทุนไทย  ,marketdata.set.or.th

ภาพประกอบ:  AFP ,TNN Online

ข่าวแนะนำ