TNN online คลายกังวล โอไมครอน หนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง 21.09 จุด

TNN ONLINE

Wealth

คลายกังวล โอไมครอน หนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง 21.09 จุด

คลายกังวล โอไมครอน หนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง 21.09 จุด

ดัชนีหุ้นไทยปิดวันที่ ที่ 1,609.28 จุด เพิ่มขึ้น 21.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74,906.17 ล้านบาท หลังนักลงทุนคลายกังวลโอไมครอน และได้แรงหนุนกลุ่มหุ้นเปิดเมือง

วันนี้ (7ธ.ค.64 ) ปิดตลาดดัชนี SET INDEX อยู่ที่ 1,609.28 จุด เพิ่มขึ้น21.09 จุด หรือ 1.33 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74,906.17 ล้านบาท โดยตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวก ตามทิศทางตลาดต่างประเทศและตลาดภูมิภาค นำโดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เปิดเมือง ธนาคารและพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว ประกอบกับความกังวลการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเริ่มคลี่คลายที่แม้ว่าจะระบาดได้มากกว่าแต่ความรุนแรงขณะนี้ค่อนข้างน้อย 


นักวิเคราะห์  บล.หยวนต้า กล่าวว่า SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นยืนเหนือ 1,600 จุดอีกครั้ง หลังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของกลุ่ม Reopening หลังจากสาธารณสุขของหลายประเทศ ลงความเห็นว่าการแพร่เชื้อของโอไมครอน ยังไม่อยู่ในระดับรุนแรง ขณะที่ กลุ่มแบงก์ได้ Sentiment บวกจากการปรับตัวชึ้นเด่นของ BAY หลังจากชนะประมูลซื้อพอร์ตสินเชื่อซิติแบงก์    รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นก็ช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วย  


ทั้งนี้ตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวขึ้นกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้บวกเฉลี่ย 2% หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 


ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ ( 8 ธ.ค.) คาด SET Index แกว่ง Sideway up ทดสอบแนวต้าน 1,615-1,620 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,600 จุด กลุ่ม reopening play ยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ด้วยเงื่อนไขวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ คาดว่าแรงเก็งกำไรจะสลับมาที่หุ้นกลางเล็กบ้าง 


ด้าน นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์นี้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,565 -1,575 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,600 -1,610 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลนำเข้าและส่งออกเดือนต.ค. รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ปี64 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภค ข้อมูลนำเข้าและส่งออก


สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ 

1.KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  4,408.06 ล้านบาท  ปิดที่  137.50 บาท เพิ่มขึ้น  3.50 บาท

2.SCB     มูลค่าการซื้อขาย  2,446.31 ล้านบาท  ปิดที่  125.00 บาท เพิ่มขึ้น  2.00 บาท

3.CPALL   มูลค่าการซื้อขาย  2,443.69 ล้านบาท  ปิดที่   59.50 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท


คลายกังวล โอไมครอน หนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง 21.09 จุด

ที่มา : บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)  ,บล.กสิกรไทย  ,marketdata.set.or.th

ภาพประกอบ:  AFP ,TNN Online

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง