TNN online สตาร์ทอัพเฮ นายกฯ ไฟเขียว ข้อเสนอ สภาดิจิทัล ยกเว้น ภาษี Capital Gain Tax 0%

TNN ONLINE

Wealth

สตาร์ทอัพเฮ นายกฯ ไฟเขียว ข้อเสนอ สภาดิจิทัล ยกเว้น ภาษี Capital Gain Tax 0%

สตาร์ทอัพเฮ นายกฯ ไฟเขียว  ข้อเสนอ สภาดิจิทัล ยกเว้น ภาษี Capital Gain Tax 0%

สตาร์ทอัพเฮ..นายกฯ ไฟเขียว ข้อเสนอ สภาดิจิทัล อนุมัติ พ.ร.ฎ. ยกเว้น "ภาษี Capital Gain Tax 0% มาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในสตาร์ทอัพไทย"พลิกโฉมไทยสู่เทคฮับของภูมิภาค

วันนี้( 4 ธ.ค.64) นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) อนุมัติข้อเสนอของ สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ในการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยกเว้น "ภาษี Capital Gain Tax 0% สำหรับการลงทุนในสตาร์ตอัพไทย" 


เพื่อกำหนดเป็นมาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับสตาร์ทอัพ และ Tech companies ของไทย ให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพลิกโฉมประเทศไทยในอนาคต โดยข้อเสนอที่ได้รับการอนุมัตินี้ ถือเป็นส่วนสำคัญของการยกระดับด้านกฎระเบียบ ซึ่งรวมไปถึงมาตรการทางภาษี เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นต้น


"ต่อจากนี้กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร และสภาดิจิทัลฯ จะบูรณาการความร่วมมือ เพื่อให้ พ.ร.ฎ. สามารถออกเป็นกฎหมายได้ภายในต้นปี 2565 และจะกลับไปนำเสนอกับ นายกรัฐมนตรี และ ศบศ. ถึงมาตรการอื่นๆ ในการส่งเสริมระบบนิเวศ ที่เหมาะสมต่อการส่งเสริมการลงทุน ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และสตาร์ตอัพให้แก่ผู้ประกอบการไทยในอีก 1 เดือนข้างหน้า"


ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวของสภาดิจิทัล ฯ และเครือข่ายพันธมิตรในการที่จะผลักดันจูงใจให้นักลงทุนไทยและต่างประเทศ (Venture Capital หรือ VC) เข้ามาลงทุนในสตาร์ตอัพมากขึ้น จะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem)ให้เข้มแข็งทั้งด้านนโยบายและกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สร้างไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก


ปัจจุบันหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน อาทิ สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย มีนโยบายยกเว้นภาษี Capital Gain Tax ทำให้ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้จำนวนมาก ซึ่งหลังจากการแก้ไขมาตรการภาษีดังกล่าว จะทำให้ไทยสามารถเร่งขยายโอกาสการเติบโตของสตาร์ตอัพ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยตั้งเป้าดึงเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าการลงทุนใน Tech Companies ในภูมิภาคอาเซียน เข้ามาลงทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพไทย


ข้อมูล : สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย  -TNN WEALTH 

ภาพประกอบ :AFP 



ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง