TNN online กังวลโควิดกลายพันธุ์จากแอฟริกา ฉุดหุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 37.85 จุด

TNN ONLINE

Wealth

กังวลโควิดกลายพันธุ์จากแอฟริกา ฉุดหุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 37.85 จุด

กังวลโควิดกลายพันธุ์จากแอฟริกา ฉุดหุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 37.85 จุด

หุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ร่วงลงกว่า 37.85 จุดที่ 1,610.61 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายที่มกว่า 123,245.15 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ จากแรงกังวลโควิดสายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาจะกระทบเศรษฐกิจ

วันนี้ (26 พ.ย.64) ดัชนีหุ้นไทย หรือ  SET Index  ปิดที่ 1,610.61 จุด ลดลง 37.85 จุด หรือ 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 123,245.15 ล้านบาท เนื่องมาจากนักลงทุนกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาที่อาจรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลต้า รวมไปถึงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด 


โดย นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน และปรับลดลงรุนแรงมาก สาเหตุมาจากความกังวลการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ Nu (B.1.1.529) ที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดง่ายกว่าสายพันธุ์เดลต้า และอาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดน้อยลงไปได้ ที่ปัจจุบันพบการระบาดในประเทศแถบแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ บอตสวานา และฮ่องกง ที่มีผู้ติดเชื้อจากแอฟริกาใต้เดินทางไป รวมถึงความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงรัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้ผู้บริหารของบริษัทตีตี โกลบอล อิงค์ (Didi Global Inc) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถรับส่งสัญชาติจีน ถอนตัวออกจากการจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เนื่องจากรัฐบาลจีนมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการรั่วไหลของข้อมูลที่อ่อนไหว ซึ่งข้อเรียกร้องดังกล่าวของทางการจีนยังครอบคลุมถึงการอนุญาตให้ตีตี โกลบอล เข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดฮ่องกง หลังจากถอนตัวออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ


 ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า แม้แผนการผ่อนคลายกิจกรรมการดำเนินเศรษฐกิจในประเทศยังมีต่อเนื่องจากการประชุม ศบค. ที่ปรับระดับพื้นที่ยกเลิกสีแดงเข้มและยกเลิกประกาศใช้เคอร์ฟิวทุกพื้นที่ พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเป็น 7 จังหวัด แต่ความกังวลไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่กลับมามีน้ำหนักมากกว่า ทำให้มีเงินเคลื่อนย้ายออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย แนะนำลงทุนหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ใช้โอกาสช่วงจังหวะที่ปรับลดลงเข้าซื้อสะสม


ขณะที่ นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรง เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า หลายตลาดฯก็ปรับตัวลงมาแถว 2% แม้แต่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ร่วงไป 800 จุด ด้านตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ร่วงหนักราว 3% จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในยุโรป ที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดค่อนข้างจะเร่งตัวขึ้น และยังมีการพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่มาจากแอฟริกาใต้อีก แม้ปัจจัยเรื่องโควิดจะเป็นปัจจัยลบเดิม ๆ แต่ครั้งนี้เป็นสัญญาณที่รุนแรงขึ้น ทำให้ไปกดดันตลาดฯ

นอกจากนี้ ตลาดฯยังมีปัจจัยกดดันจากเรื่องเงินเฟ้อสูง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะปรับตัวขึ้นเร็ว ซึ่งกดดันตลาดฯอยู่แล้ว เมื่อมาเผชิญกับโควิดสายพันธุ์ใหม่จากแอฟริกาใต้ ก็ทำให้มีแรงขายออกมามากขึ้น ดัชนีหุ้นไทยวันนี้หลุดแนวรับหลายแนว และปรับตัวลงไปกว่า 2% คาดว่าในสัปดาห์หน้า ตลาดฯคงจะซึม ๆ โดยมีแนวรับ 1,600 จุด แนวต้าน 1,630 จุด พร้อมให้ติดตาม สถานกาณณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศอย่างใกล้ชิด หลังจากที่มีการพบโควิดสายพันธุ์ใหม่จากแอฟริกาใต้


สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด3 หลักทรัพย์ ได้แก่ 

1. KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  6,308.47 ล้านบาท  ปิดที่  142.50 บาท ลดลง   4.50 บาท

2. AOT     มูลค่าการซื้อขาย  4,910.53 ล้านบาท  ปิดที่   63.00 บาท ลดลง   3.75 บาท

3. SCB     มูลค่าการซื้อขาย  2,988.98 ล้านบาท  ปิดที่  127.00 บาท ลดลง   3.50 บาท

กังวลโควิดกลายพันธุ์จากแอฟริกา ฉุดหุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 37.85 จุด

ข้อมูล: marketdata.set.or.th,บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ,บล.เอเซียพลัส ,บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)  

ภาพประกอบ : AFP


ข่าวแนะนำ