TNN online ปิดตลาดหุ้นไทย บวก 1.97 จุด ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Reopening ควันหลงเปิดเมือง

TNN ONLINE

Wealth

ปิดตลาดหุ้นไทย บวก 1.97 จุด ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Reopening ควันหลงเปิดเมือง

ปิดตลาดหุ้นไทย บวก 1.97 จุด ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Reopening ควันหลงเปิดเมือง

ปิดตลาดหุ้นไทย บวก 1.97 จุด ที่ระดับ 1,632.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63,501.66 ล้านบาท มีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าไอที ทำตลาดแกว่งไซด์เวย์ แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Reopening หลังเปิดเมือง จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นไม่สูงมาก

วันนี้ ( 11 พ.ย.64) ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,632.44 จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด (+0.12%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63,501.66 ล้านบาท โดยตลาดผันผวนในแดนบวกและลบ นักลงทุนกังวลเงินเฟ้อหลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือน ต.ค.เมื่อเทียบรายปี แต่ยังได้รับแรงหนุน หลักๆจากหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าไอทีที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของเอสวีไอออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ 


นักวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า จากเศรษฐกิจที่ผ่านช่วงต่ำสุดและกำลังฟื้นตัวนั้น จึงให้น้ำหนักหุ้นต่างประเทศไว้ที่ 30% เท่ากับตลาดหุ้นไทยที่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ และมาตรการเปิดเมืองที่มีแบบแผนชัดเจน รวมไปถึงเศรษฐกิจไทยที่ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 โดยเน้นการลงทุนในหุ้นเปิดเมืองหรือสินค้าจำเป็น ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในตราสารลงทุนอื่นๆเน้นลงทุนในสินค้าที่ลงทุนในหุ้นไทยซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากสภาวะตลาดหุ้นผันผวน และขาดปัจจัยหนุนได้เป็นอย่างดี


ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ไร้ทิศทางที่ชัดเจน โดยต่างโฟกัสไปที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3/64 ทำให้หุ้นที่งบฯออกมาดีก็จะปรับตัวขึ้นได้ และยังมีหุ้นที่มีการออกงาน Opp. day จะมีแรงเก็งกำไรเข้ามา ดังนั้นตลาดฯจึงเป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวไป  ขณะเดียวกัน หุ้นในกลุ่ม Reopening ที่ถูกขายก่อนหน้านี้ก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา หลังจากที่เปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.วิตกว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ต้องรอดูสถานการณ์ 14 วันก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านมาครึ่งทางแล้วจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้น่ากังวลเท่าไร ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง ท่ามกลางแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มแบงก์หลังจากที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้ ดัชนีฯจึงแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง  โดยให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.ชุดใหญ่)ในวันศุกร์นี้ ว่าจะมีการเคาะเรื่องนำเข้าแรงงานหรือไม่ ซึ่งหากมีก็จะเป็นการปลดล็อกหุ้นบางกลุ่มที่เกี่ยวข้อง อย่างหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มค้าปลีกขนาดเล็ก    

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) คาดว่าตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวต้านที่ 1,635 จุด หากผ่านไปได้ก็จะไปทดสอบ High เดิมที่ 1,650 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,620 จุด

         

ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า SET Index แกว่งออกด้านข้างในกรอบแคบ ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ไม่หนาแน่น แรงซื้อกระจุกตัวในหุ้นที่เปิดเผยผลประกอบการออกมาดี เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มการแพทย์  มองแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาด SET Index แกว่งในกรอบ 1,628-1,640 จุด โดยกลุ่มหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic play) จะกลับมาเด่น จากความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการไตรมาส 4 ปี2564 ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศต้องติดตาม ความผันผวนของ Dollar Index จากแรงกดดันของภาวะเงินเฟ้อ 


สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3  หลักทรัพย์ ได้แก่          

1.COM7   มูลค่าการซื้อขาย  2,339.30 ล้านบาท  ปิดที่   75.25 บาท เพิ่มขึ้น  3.75 บาท

2.KBANK  มูลค่าการซื้อขาย  2,012.88 ล้านบาท  ปิดที่  149.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท

3.KCE    มูลค่าการซื้อขาย  1,419.42 ล้านบาท  ปิดที่   91.00 บาท เพิ่มขึ้น  0.50 บาท

ปิดตลาดหุ้นไทย บวก 1.97 จุด ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Reopening ควันหลงเปิดเมือง          

ข้อมูล : marketdata.set.or.th, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ,บล.เอเซียพลัส ,บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) 

ภาพประกอบ : AFP ,TNN Online

ข่าวแนะนำ