TNN online ตอบรับท่วมท้น ! หุ้นกู้ TU ขายเกลี้ยง 6พันล้าน

TNN ONLINE

Wealth

ตอบรับท่วมท้น ! หุ้นกู้ TU ขายเกลี้ยง 6พันล้าน

ตอบรับท่วมท้น ! หุ้นกู้ TU  ขายเกลี้ยง 6พันล้าน

ไทยยูเนี่ยนออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งที่ 2 ผลตอบรับท่วมทุนขายเกลี้ย 6,000 ล้านบาท จำนวน 2 รุ่นประกอบด้วย รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 2.27% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 3.36% ต่อปี

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท จำนวน 2 รุ่นประกอบด้วย รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.27% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.36% ต่อปี   ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน  เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 


ทั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการพัฒนาตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทยรวมถึงการดำเนินธุรกิจโดยมีเป้าหมายร่วมเพื่อความยั่งยืน หลังจากที่บริษัทได้ออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนชุดนี้อีกครั้ง 

 

การออกหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ของไทยยูเนี่ยน ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Blue Finance (การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อมหาสมุทร – และอุตสาหกรรมอาหารทะเลโดยรวม) นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการจัดอันดับจากดัชนี  Seafood Stewardship Index  (SSI) เป็นอันดับที่ 1 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สำหรับการทำงานตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ 


บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนชุดนี้ อยู่ที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งแสดงถึงสถานะทางการตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความเข้มแข็งของไทยยูเนี่ยนในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลกที่มีสถานะการเงินและธุรกิจที่แข็งแกร่งและมั่นคง  


สำหรับหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนไม่เพียงแต่จะเป็นการต่อยอดความสำเร็จหลังจากที่บริษัทได้มีการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  ทางด้านโครงสร้างของหุ้นกู้ยังคงมีลักษณะทางการเงินแบบ Step up/ Step down โดยอ้างอิงถึงผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัท 


ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันกับการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งแรก ภายใต้กรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท (Thai Union’s Sustainability-Linked Financing Framework) ซึ่งมี Sustai nalytics เป็นผู้ชำนาญการอิสระ (Second Party Opinion) ซึ่งเป็นองค์กรภายนอกที่ทำหน้าที่ประเมินกรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน  


นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  การออกหุ้นกู้ครั้งนี้  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ๆ และเป็นการสร้างเส้นอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท โดยเป็นอัตราดอกเบี้ยของรุ่น 5 และ 10 ปีที่เสนอขายครั้งนี้ และอัตราดอกเบี้ยของรุ่น 7 ปีที่เสนอขายไปในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา


ทั้งนี้มียอดจองกว่า 10,000 ล้านบาท หรือ มากกว่า 2 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของไทยยูเนี่ยน 

บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นนักลงทุนรายใหม่ได้เข้าร่วมการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนในครั้งนี้ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพิ่มเติมจากนักลงทุนที่เป็นกองทุนจากภาครัฐ และกลุ่มบริษัทประกันชีวิต


นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา   กล่าวว่า  ความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ยังสะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจของกรุงศรีในการขับเคลื่อนสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืนด้วย 


โดยที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความยั่งยืนในทุกมิติ จนถึงวันนี้ถือได้ว่ากรุงศรีเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืน  ซึ่งกรุงศรียังคงให้คำมั่นว่าจะยังคงให้ความสำคัญในเรื่องนี้ดังกล่าวนี้อย่างต่อเนื่อง  

นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  กล่าวว่า  บริษัท ไทยยูเนี่ยน และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เห็นโอกาสในช่วงที่ตลาดของอัตราดอกเบี้ย THOR เอื้ออำนวย จึงได้ทำธุรกรรมอนุพันธ์เพื่อเปลี่ยนต้นทุนดอกเบี้ยหุ้นกู้จากอัตราดอกเบี้ยคงที่ (fixed) เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอ้างอิง THOR ด้วย ซึ่งช่วยให้บริษัทบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  



ที่มา :ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 

ภาพประกอบ :ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 

ข่าวแนะนำ