TNN online เงินบาทพลิกอ่อน ! ดอลลาร์พุ่งแตะนิวไฮรอบ 1 ปี

TNN ONLINE

Wealth

เงินบาทพลิกอ่อน ! ดอลลาร์พุ่งแตะนิวไฮรอบ 1 ปี

เงินบาทพลิกอ่อน  ! ดอลลาร์พุ่งแตะนิวไฮรอบ 1 ปี

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.87 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังดอลลาร์พุ่งแตะนิวไฮรอบ 1 ปี จากเงินเฟ้อเร่งขึ้นมากกว่าคาดส่งผลให้ตลาดคาดว่าเฟดปรับลดคิวอี-ขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น กดตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  32.87 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลง  จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  32.75 บาทต่อดอลลาร์ หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าในรอบ 1 ปี  หลังเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นและอยู่ในระดับสูง หลังจากที่ อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม พุ่งขึ้นแตะระดับ 6.2% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มากและเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 30 กว่าปี ทำให้ตลาดกังวลว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นและอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ปรับลดคิวอีในอัตราที่เร็วขึ้นและอาจขึ้นดอกเบี้ยได้เร็ว  


ภาพดังกล่าวส่งผลให้ ในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี S&P500 ย่อตัวลงกว่า -0.82% ส่วนดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ดิ่งลงกว่า -1.66% ตามแรงเทขายหุ้นเทคฯ หลังจากที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้ระดับราคาของหุ้นเทคฯ ดูแพงขึ้นมาก


ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX50 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยราว +0.10% จากแรงหนุนการอ่อนค่าของเงินยูโร (EUR) ที่หนุนให้ราคาหุ้นของบริษัทที่มียอดขายทั่วโลกต่างปรับตัวสูงขึ้น อาทิ Sanofi +1.4%, Inditex (แบรนด์ Zara) +1.3% อย่างไรก็ดี ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปก็ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ เช่นกัน หลังบอนด์ยีลด์ในฝั่งยุโรปก็ปรับตัวขึ้นตามบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ASML -1.6%, Adyen -1.3%, Infineon Tech. 1.0%


ขณะที่ตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมามองว่า ธนาคารกลางหลักอาจจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดได้เร็วขึ้น อาทิ ปรับเร่งอัตราการลดคิวอี หรือ ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ ล่าสุด บอนด์ยีลด์ระยะยาวทั่วโลก อาทิ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นราว 10bps สู่ระดับ 1.55% เช่นเดียว กันกับ บอนด์ยีลด์ในฝั่งยุโรป อาทิ บอนด์ยีลด์ 10 ปี อังกฤษรวมถึง บอนด์ยีลด์ 10 ปี เยอรมนี ต่างก็ปรับตัวขึ้นราว 5-10bps แตะระดับ 0.92% และ -0.25% ตามลำดับ 


ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 94.85 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 ปี หลังจากที่ตลาดกลับมากังวลปัญหาเงินเฟ้อมากขึ้น และหนุนให้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 


ทั้งนี้การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์นั้นได้กดดันให้ สกุลเงินหลัก อาทิ เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าหลุดระดับ 1.15 ดอลลาร์ต่อยูโร  ส่วนเงินเยน (JPY) ก็อ่อนค่าลงใกล้ระดับ 114 เยนต่อดอลลาร์ อีกครั้ง 


ย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ กลับไม่ได้กดดันราคาทองคำมากนัก โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับ 1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อตัวลงสู่ระดับ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากความกังวลปัญหาเงินเฟ้อเป็นหลัก 


ทั้งนี้มองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจทยอยขายทำกำไรราคาทองคำมากขึ้น เนื่องจาก การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อหลังจากนี้อาจมีไม่มากนัก แต่บอนด์ยีลด์ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจทำให้ Real Yield หรือ Nominal Yield - เงินเฟ้อ ปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อราคาทองคำ 


สำหรับวันนี้ตลาดจะรอจับตาการประชุมผู้นำระดับสูงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ว่าจะมีการสื่อสารเกี่ยวกับทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างไรบ้าง รวมถึงแนวโน้มการควบคุมสถานการณ์การระบาดในจีนว่าจะมีการออกมาตรการใหม่ๆ หรือ ไม่ นอกเหนือจากนโยบาย Zero COVID ที่อาจกดดันให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในช่วงการระบาดระลอกใหม่นี้



ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท  มองว่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวน แต่อาจแข็งค่าขึ้นได้บ้าง จากโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ รวมถึง ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่อาจเข้ามาเก็งกำไรแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ผ่านการซื้อบอนด์ระยะสั้น รวมถึงรอซื้อหุ้นไทยที่อาจย่อตัวตามตลาดการเงินโลก หลังจากที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมุมมองต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ดีขึ้น 


นอกจากนี้มองว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบปี น่าจะรับรู้ปัญหาเงินเฟ้อไปเยอะพอสมควรแล้ว ทำให้ เราเชื่อว่า เงินดอลลาร์อาจมีการย่อตัวได้บ้างในระยะสั้น ยกเว้นในกรณีที่ตลาดเผชิญปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม อาทิ การระบาดหนักของ COVID ในช่วงฤดุหนาว ที่เริ่มเห็นยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นทั้งในยุโรปและจีน 


อย่างไรก็ตาม หากเงินบาทอ่อนค่าลง ก็อาจเผชิญแรงขายจากบรรดาผู้ส่งออกที่ขยับออเดอร์มาทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วง 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากที่เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่วนผู้นำเข้ายังรอทยอยซื้อเงินดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 32.50-32.60 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้เรามองว่า เงินบาทจะปรับโซนการแกว่งตัวมาอยู่ในกรอบ 32.50-33.00 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.70-32.90  บาทต่อดอลลาร์ 



ที่มา : ธนาคารกรุงไทย


ภาพประกอบข่าว :  ธนาคารกรุงไทย

ข่าวแนะนำ