หุ้นไทยปิดลบ ! ไร้ปัจจัยใหม่หนุน มูลค่าซื้อขายต่ำสุดรอบปี
ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย 0.72 จุด มูลค่าการซื้อขายต่ำสุดรอบปีเหตุไร้ปัจจัยหนุน นักลงทุน ชะลอการลงทุนก่อนสู่โหมดวันหยุดปีใหม่ มองกรอบการเคลื่อนไหว 1,530-1,550 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,636.50 จุด ลบ 0.72 จุด หรือ 0.04% ระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุด 1,642.42 จุด ต่ำสุด1,632.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51,480.31 ล้านบาทว่าตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบจากการขาดปัจจัยหนุน ขณะที่ตลาดหุ้นภายนอกแผ่วหลายประเทศเนื่องจากใกล้เข้าสู่เทศกาลปีใหม่
สำหรับปัจจัยที่ติดตามคือการแพร่ระบาดโอมิครอนในประเทศที่รายงานพบผู้ติดเชื้อรวม514 ราย ซึ่งต้องจับตาดูพัฒนาการหลังจากกลับมาในช่วงปีใหม่ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเร่งตัวขึ้นหรือไม่ทำให้นักลงทุน wait and see รอดูสถานการณ์ไม่ถือหุ้นข้ามปี โดยเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายวันนี้ถือว่าต่ำสุดในรอบปี
ส่วนตลาดหุ้นในช่วงที่เหลืออีก 3 วันบรรยากาศไม่แตกต่างจากวันนี้ โดยแกว่งตัวซึมไซด์เวย์ออกข้างมองกรอบการเคลื่อนไหว 1,530-1,550 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
เช่น BEC แนวโน้มไตรมาสสี่ปี 2564 คาดการณ์กำไรสุทธิอยู่ที่ 202 ล้านบาท +41% จากการขายลิขสิทธิ์ไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศ
หุ้นเด่นตัวถัดมาคือ KBANK กำไรสุทธิ9M64ขยายตัว 74% YoY และคิดเป็นสัดส่วน 90% ของประมาณการเดิมและแนวโน้มกำไรสุทธิ4Q64 อ่อนตัว QOQ เพราะค่าใช้จ่ายดำเนินสูงขึ้นแต่รายได้มีแรงส่งจากสินเชื่อและรายได้ค่าทำเนียมตามปัจจัยฤดูกาล
ขณะที่คาดกำไรสุทธิปี 2564 เท่ากับ 3.6 หมื่นล้านบาทเติบโต 22% YoY และปี 2565 ที่ 3.8 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 6.5%จากรายได้ดอกเบี้ยรับตามฐานสินเชื่อขยายตัว
และรายได้ค่าทำเนียมขับเคลื่อนด้วยการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
หุ้นเด่นตัวสุดท้ายคือ MCSทิศทางกำไรสดใสจาก backlock ที่ยังมีเหลืออีกกว่า 100,000 ตันรองรับการสร้างรายได้ถึงปี 2566 โดยช่วง2H64มีแผนส่งมอบงานกว่า 40,000 ตันเ
เป็นงานที่ให้มาจิ้นสูงอย่างโครงการ Toraomon Azbudai
ที่มา นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส
ภาพประกอบ บล.เอเซีย พลัส,TNNONLINE