TNN online กพท.เผยแพร่แนวปฏิบัติสำหรับผู้โดยสาร ต้องมีผลตรวจ ATK หลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส

TNN ONLINE

Wealth

กพท.เผยแพร่แนวปฏิบัติสำหรับผู้โดยสาร ต้องมีผลตรวจ ATK หลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส

กพท.เผยแพร่แนวปฏิบัติสำหรับผู้โดยสาร ต้องมีผลตรวจ ATK หลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเผยแพร่ข้อแนวปฏิบัติสำหรับผู้โดยสาร ต้องมีผลการตรวจ ATK ภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน มีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส

วันนี้ (30ต.ค.64) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เผยแพร่ ข้อแนะนำสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศด้านสาธารณสุขเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามมาตรการปลอดภัยสําหรับองค์กร (COVID Free Setting)

ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 36) ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ข้อ 2 การกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้สถานที่ กิจการ หรือการดำเนินกิจกรรมในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 

สามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด เช่น มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ อีกทั้งการขนส่งสาธารณะสามารถรับขนได้เต็มความจุของยานพาหนะ 

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปรับปรุงแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศที่กำหนดไว้เดิมให้สอดคล้องกับข้อกำหนดฉบับล่าสุด 

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จึงได้นำแนวทางปฏิบัติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขสำหรับการขนส่งสาธารณะมาปรับใช้เป็นข้อแนะนำให้ผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศนำไปปฏิบัติ 

ทั้งนี้ หากมีแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จากหน่วยงานสาธารณสุขอื่นๆ สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสม

1.แนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย

1.1 ผู้ดำเนินการสนามบิน

1. ผ่านเกณฑ์ประเมิน Thai Stop COVID plus และมี Certificate และประเมินทุก 14 วัน

2. จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ และจัดวางในบริเวณที่เหมาะสมใช้งานได้สะดวก

3. มีการทําความสะอาดพื้นที่ บริเวณ พื้นผิว อุปกรณ์ที่มีการสัมผัสร่วมกัน ด้วยน้ำยาทําความสะอาดและอาจฆ่าเชื้อด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว) 0.1% หรือแอลกอฮอล์ 70% โดยดําเนินการดังนี้

1) ภายในอาคารผู้โดยสารในพื้นที่หรือจุดที่มีการสัมผัสร่วมทุก 1-2 ชั่วโมง เช่น โต๊ะเก้าอี้ เคาน์เตอร์จําหน่ายตั๋วโดยสาร ปุ่มกดตู้เช็คอิน มือจับประตู ลูกบิดประตู ราวบันได เป็นต้น

2) ห้องส้วมในอาคารผู้โดยสารทุก 1-2 ชั่วโมง โดยเน้นบริเวณจุดเสี่ยง ได้แก่ ลูกบิดประตู ก๊อกน้ำอ่างล้างมือ ที่กดโถส้วมหรือโถปัสสาวะ และสายฉีดน้ำ ชำระ ทั้งนี้ ต้องจัดให้มีสบู่สําหรับล้างมืออย่างเพียงพอ

4. ผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยาน ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกําหนด

1.2 ผู้ดำเนินการเดินอากาศ

1. เพิ่มความถี่ในการทําความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการใช้งานบนอากาศยานทุกรอบก่อนและหลังให้บริการ และกําจัดขยะทุกรอบหลังเสร็จสิ้นการขนส่งผู้โดยสารหากมีสิ่งอํานวยความสะดวกในอากาศยาน เช่น ผ้าห่ม ปลอกหมอนต้องเปลี่ยนใหม่ ทุกรอบที่ให้บริการไม่นํามาใช้ซ้ำ

2. ให้งดการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มบนอากาศยาน

3. มีช่องทางการจําหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ทางโทรศัพท์ เว็บไซต์แอปพลิเคชัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อสัมผัส

4. การให้คําแนะนําพนักงาน และผู้โดยสาร พร้อมทั้งตรวจตรา ควบคุม กํากับการให้บริการ และใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการที่ไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการฯ อาจพิจารณางดให้บริการ

5. มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการทราบวิธีปฏิบัติตัวในการใช้บริการที่ปลอดภัย และแจ้งเตือนพนักงานและผู้โดยสาร กรณีเป็นผู้ป่วยยืนยันหรือผู้ที่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้งดการเดินทาง

2.แนวปฏิบัติด้านการเว้นระยะห่าง

2.1 มีการควบคุมจํานวนผู้โดยสารไม่ให้แออัด และให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างรอรับบริการ ได้แก่ระหว่างการซื้อตั๋ว การนั่งรอก่อนขึ้นอากาศยาน และเมื่อลงจากอากาศยานที่ปลายทาง

2.2 ให้มีจำนวนผู้โดยสารได้ตามความจุของอากาศยานที่ใช้ในการทำการบินเที่ยวบินนั้น ๆ และให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศพิจารณาการจัดที่นั่งในห้องโดยสารอย่างเหมาะสม โดยให้เป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอันจะมีส่วนช่วยในการป้องกันควบคุมโรค

2.3 ให้ผู้ดําเนินการเดินอากาศจัดระบบไหลเวียนของผู้โดยสารและการรับกระเป๋า ให้มีการเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม

3. แนวปฏิบัติด้านการระบายอากาศ

3.1 จัดให้มีระบบหมุนเวียนอากาศที่เพียงพอภายในท่าอากาศยานและอากาศยาน

3.2 ให้มีการทําความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ

4.   แนวปฏิบัติด้านผู้ให้บริการ

4.1 การควบคุมกํากับให้มีคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกคนด้วยไทยเซฟไทย

4.2 ให้มีผู้รับผิดชอบ ติดตาม กํากับ การปฏิบัติตามมาตรการ DMHTA อย่างเคร่งครัด

4.3 พนักงานทุกคนที่ต้องให้บริการแก่ผู้โดยสารจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสหรือเคยมีประวัติการติดเชื้อโควิดมาก่อนอยู่ในช่วง 1-3 เดือน

4.4 จัดทำแผนให้พนักงานทุกคนที่ต้องให้บริการแก่ผู้โดยสารหรือมีโอกาสสัมผัสกับผู้โดยสารทำการตรวจคัดกรองด้วย ATK ทุก 7 วัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงหรือกลุ่มที่อยู่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อสูง

4.5 ปฏิบัติตามมาตรการ UP-DMHTA โดยมีผู้รับผิดชอบ กํากับติดตาม การปฏิบัติตามมาตรการโดยเคร่งครัด

4.6 พนักงาน งดรวมกลุ่มขณะปฏิบัติงาน ระหว่างพักงดรับประทานอาหารร่วมกัน งดการทํางานข้ามเขต/แผนก

5. แนวปฏิบัติด้านผู้รับบริการ

COVID Health Pass มีการตรวจสอบหลักฐานหรือเอกสารของผู้โดยสาร ดังนี้

(1) ผู้โดยสารทุกคน มีการคัดกรองด้วย APPLICATION ตามที่กฎหมายกำหนด หรือ

(2) มีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส หรือใบรับรองแสดงประวัติการเคยติดเชื้อมาก่อนอยู่ในช่วง 1-3 เดือนหรือผลการตรวจ ATK ภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน (เป็นเอกสาร หรือ หลักฐาน digital ตามที่กำหนด) หรือเป็นไปตามเงื่อนไขจังหวัดปลายทาง


อ้างอิงจาก แนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

กรณีเปิดสถานประกอบกิจการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มาตรการปลอดภัยสําหรับองค์กร

(COVID Free Setting) สําหรับ บริการขนส่งสาธารณะข้ามจังหวัด กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 31 สิงหาคม 2564



ข้อมูลจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

ภาพจาก TNN ONLINE

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง