ธปท.ขยายเวลาให้ความช่วยเหลือผ่านกองทุน BSF ถึงสิ้นปี 65

วันนี้ (28 ต.ค.64)  นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกำกับกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกองทุนฯมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือของกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ หรือ BSF (Corporate Bond Stabilization Fund ) ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2564 ออกไปถึงสิ้นปี 2565  เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่ยังไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า การมีแหล่งสภาพคล่องไว้เผื่อจะได้ช่วยรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และช่วยรักษาเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมได้ แม้ปัจจุบันวงเงินของกองทุน BSF ที่เตรียมไว้ให้ธุรกิจที่มีพื้นฐานดี แต่ประสบปัญหาสภาพคล่องชั่วคราวในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด วงเงินรวม 4 แสนล้านจะมีอยู่เท่าเดิม เพราะไม่มีธุรกิจรายใดเข้ามาใช้เลย เพราะกลไกตลาดตราสารหนี้ยังทำงานได้เป็นปกติ บวกกับสภาพคล่องในระบบการเงินไทยยังสูงและมีเพียงพอ  

สำหรับกองทุน BSF จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกลไกให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง (liquidity backstop) ในระยะสั้น หรือ เป็นหลังพิงให้แก่ธุรกิจ โดยกองทุน BSF จะเข้าถือลงทุนหุ้นกู้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 270 วัน  เพื่อเติมสภาพคล่องให้ธุรกิจที่หุ้นกู้ใกล้ครบกำหนดชำระ แต่ขาดสภาพคล่องชั่วคราว หาแหล่งเงินกู้ จากการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ จากสถาบันการเงิน หรือกู้จากแหล่งเงินอื่นๆ อาทิ เจ้าของ ผู้ถือหุ้น หรือบริษัทแม่ไม่ได้   แต่บริษัทที่จะมีสิทธิ์ขอให้ กองทุน BSF เข้าลงทุนได้ต้องเป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย ที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน หรือ บริษัทลูกของสถาบันการเงิน ที่สำคัญต้องมีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับลงทุนได้ (investment grade) และแต่ละรายลงทุนได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของวงเงิน 4 แสนล้านบาท หรือ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 1-2 ต่อปี และนำเงินที่ได้ไปใช้ เพื่อนำไปใช้ชำระหุ้นกู้ที่ครบกำหนดเดิม (rollover) เท่านั้น

ข้อมูล: ธปท. 

ภาพ: TNN Online