เปิดประเทศดึงต่างชาติเที่ยวไทย คาดปีหน้ารายได้ฟื้นแตะ 1 ล้านล้าน
"ยุทธศักดิ์"หวังเปิดประเทศดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน คาดอุตสาหกรรมฯ ฟื้นตัวรูปตัววี ปีหน้ารายได้กลับคืนมา 50% เท่าปี 62 แตะ 1 ล้านล้านบาท ชงศบค. 14 ต.ค.เพิ่มประเทศความเสี่ยงต่ำเป็น 20 ประเทศ จากเดิม 10 ประเทศ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนการเปิดประเทศรัฐบาลในวันที่ 1 พ.ย. แบบไม่ต้องกักตัว ทำให้เศรษฐกิจและ การท่องเที่ยวกลับมาฟี้นตัวและ ก้าวผ่านจุดต่ำสุด โดย ททท.ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง เนื่องจากประกาศดังกล่าวปรับลดเงื่อนไขการเดินทางค่อนข้างมาก ช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้เดินทาง คาดว่าไตรมาสสุดท้ายไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน จากเป้าเดิมที่ 7-8 แสนคน
ทั้งนี้เห็นว่าภาคอุตฯ ท่องเที่ยวของไทยจะเติบโตในรูปแบบตัววี (V) และปีหน้าจะมีรายได้ประมาณ 50% ของปี 62 ที่มีรายได้ 2 ล้านล้านบาท และมีรายได้เพิ่ม 80% ของปี 62 ในปี 66
อย่างไรก็ตาม การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวยังต้องดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของกระ ทรวงสาธารณสุข อาทิ ประชาชนในพื้นที่ต้องปลอดภัย ฉีดวัคซีนครอบคุลม ไม่ต่ำกว่า 70% ต้องพร้อมบริหารจัดการ มีการติดตามตัวนักท่องเที่ยว ต้องมี command certer ดูแลนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกสูงสุดให้นักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ในวันที่ 14 ต.ค.ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จะเสนอรายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ำเพิ่มเป็น 20 ประเทศ จากเดิม 10 ประเทศ ซึ่งได้มีการเสนอรายชื่อเบื้องต้นให้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก. ศบค.) พิจารณาแล้ว
สำหรับประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของภาค ท่องเที่ยวไทย เมื่อปี 62 มีจำนวนนักท่องเที่ยว จีนเยือนไทยมากถึง 11 ล้านคน ครองสัดส่วนอันดับ 1 ถึง 27% ของฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยทั้งหมด โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.เที่ยวและกีฬา เตรียมเข้าพบเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้ได้สั่งการให้สำนักงาน ททท.ในประเทศจีนไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือจากภาคเอกชน เช่น สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เจรจากับคู่ค้าเพื่อเตรียมดึงกรุ๊ปทัวร์จีนเดินทางเข้าไทย หลัง อีเวนต์สำคัญของประเทศจีนอย่างการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ณ กรุงปักกิ่ง และเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นปีหน้า
ก่อนหน้าที่ ททท.ตั้งเป้าหมายมีรายได้จากตลาดจีนเที่ยวไทยช่วง 6 เดือนนี้ ตั้งแต่ ต.ค. 64-มี.ค. 65 ที่ 3,000 ล้านบาท ภายใต้ เงื่อนไขเดิมที่คลายล็อกดาวน์ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพื้นที่นำร่อง (แซนด์บ็อกซ์) อย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทางไปเที่ยวพื้นที่อื่นในไทย
ททท.ตั้งเป้าหมายปี 64 จะมีนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางมาไทย 1 ล้านคน สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดใน และต่างประเทศที่ 3.2 แสนล้านบาท
นอกจากนี้หากมีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน วันที่ 1 พ.ย. ททท.จะผลักดันให้ยกเลิกการขอใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ ไทย (COE : Certifi cate of Entry) เพราะเป็นเงื่อนไขที่ภาคเอกชน และนักท่องเที่ยวสะท้อนความเห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยากและเป็นภาระของนักท่องเที่ยว จำเป็นต้องลดภาระส่วนนี้เพื่อการแข่งขันสร้างความพึงพอใจแก่นักท่องเที่ยว หากมีการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางมากขึ้น
แต่นักท่องเที่ยวยังต้องแสดงเอกสารหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส ใบรับรองแพทย์ยืนยันผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จากประเทศต้นทาง เอกสารการซื้อประกันโควิด-19 เอกสารการจองที่พักและชำระค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในไทย
อย่างไรก็ตาม หากนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยได้แบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ หากยื่นขอ COE มาแล้ว และเดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เท่ากับว่าจะได้รับสิทธิเที่ยวไทยแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่แบบอัตโนมัติ
ที่มา : IQ
ภาพประกอบ : ททท.,พิกซาเบย์
