ตะลึง! ส่งออกปลากัดพุ่ง คนแห่เลี้ยงคลายเครียดช่วงโควิด
"วีระพงศ์"เผยตัวเลขส่งออกปลากัดโตสวนโควิด มะกันแชมป์นำเข้าสูงสุด สสว.พร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตของโลก
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ตลาดส่งออกปลากัดแนวโน้มสดใสแม้ว่าจะเผชิญกับวิกฤติโควิด แต่ความต้องการปลาสวยงามในช่วงที่ผ่านมายังปรับตัวเพิ่มขึ้น เห็นได้จากปี 63 ที่ผ่านมาตัวเลขส่งออก 74 ประเทศทั่วโลก มูลค่า 213.66 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37 %ของมูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำสวยงาม โดยประเทศที่ส่งออกมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา มูลค่า 108 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 50.68%
รองลงมาคือ จีน อิหร่าน เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น คาดการณ์ว่าในอนาคต ปลากัดไทยจะมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"เม.ย.63 ช่วงเกิดโควิดยอดส่งออกปลากัดลดลงเพียงเดือนเดียวจากนั้น ยอดการส่งออกกลับมาสู่สภาวะปกติ คือส่งออกเดือนละประมาณ 1.5-2 ล้านตัว มูลค่าประมาณ 15-20 ล้านบาทต่อเดือน และปีนี้ยังเติบโตดี"
ทั้งนี้ที่ผ่านมาพัฒนาคลัส- เตอร์ปลากัดเป็นหนึ่งในคลัสเตอร์ที่ สสว. ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนคร เหนือสนับสนุนผู้ประกอบการตั้งแต่ ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ 824 ราย แบ่งออกเป็น 6 คลัสเตอร์ย่อย สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ได้ถึง 51.13 ล้านบาท
โดยช่วงแรกจะเน้นให้ผู้ประกอบการการเกษตรขึ้นทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงปลากัด (ทบ.1) และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าสู่มาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยง (GAP) ต่อมาได้ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนามาตรฐานด้านการประกวดปลากัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาสายพันธุ์และสีสันของปลากัดที่มีคุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด รวมทั้งให้มีการวางระบบการบริหารจัดการน้ำและการตรวจสอบคุณภาพน้ำ
นอกจากนี้เน้นการรวมกลุ่มที่เข้มแข็งควบคู่ไปกับมาตรฐานของสินค้า พร้อมผลักดันให้เกิดการสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศได้รู้จักและเห็นถึงศักยภาพความเข้มแข็งของคลัสเตอร์ปลากัด เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตปลากัดของโลก รวมทั้งพัฒนาพัฒนา Web Application เพื่อแก้ปัญหาในการสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลของกลุ่มผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น
ที่มา : สสว.
ภาพประกอบ : พิกซาเบย์