ปิดตลาดหุ้นไทยแดงยกแผง แรงขายทำกำไรหุ้นใหญ่
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.76 จุด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วง-แรงขายทำกำไร DELTA-CPALL ถ่วงตลาด จับตาตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนคืนนี้ ประเมินกรอบแนวรับพรุ่งนี้ 1,600 จุด แนวต้านที่ 1,630 จุด ชูหุ้นพลังงาน-เปิดเมือง
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.คันทรี่กรุ๊ป เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,619.48 จุด ลบ 4.76 จุด หรือ 0.29 % ระหว่างวันซื้อขายสูงสุด 1,631.81 จุด และต่ำสุดที่ 1,617.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 97,659.10 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบจาก 2 ปัจจัยคือดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ปรับตัวลงแรงกว่า 1% ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่นและฮ่องกงก็ปรับตัวลงอาจเกิดความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นจากราคาพลังงาน ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเตรียมที่จะปรับลดคิวอีปลายปี
นอกจากนี้เป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงมาก่อนหน้า เช่น CPALL ปรับตัวลง 1.2%มีผลต่อดัชนี 1 จุด และหุ้น DELTA ลง 2% มีต่อดัชนี 1.2 จุด อาจเกิดจากความกัวลกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมใช้หลักเกณฑ์เชิงคุณภาพ (Qualitative Rule) ใหม่ในการ
คัดเลือกหุ้นเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 และ SET100 ในเดือนธ.ค.นี้ จาก “Full Market Capitalization” เป็น “Free Float Adjusted Market Capitalization”
"ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นแรง จากจุดต่ำสุด 1,593 จุดมาอยู่ที่ 1,630 จุดหรือปรับขึ้น 2.3%ทำให้วันนี้มีการขายออกมาทำกำไรบ้าง อย่างไรก็ตามในวันนี้ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 181.05 ล้านบาทบัญชีบล.ขายสุทธิ 452.72 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิ 1,263.05 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 1,896.82 ล้านบาท "
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้เป็นตัวเลขการจ้างงานเอกชนของสหรัฐฯ bloomberg consensus คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 425,000 ตำแหน่ง และในวันพรุ่งนี้เป็นตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานคาดจะอยู่ที่ 350,000 ตำแหน่งและวันศุกร์เป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 490,000 ตำแหน่ง ส่วนการแพร่ระบาดโควิดมองว่าผ่านจุดแย่ที่สุดแล้ว ซึ่งหากรัฐผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจภาพต่อไปจะนำไปสู่การเปิดเมือง
ด้านกลยุทธ์การลงทุนในระยะกลางและระยะสั้นเน้นหุ้นในกลุ่มพลังงาน หุ้นเด่นที่เลือกคือ PTTEP ราคาเป้าหมาย 146 บาท คาดว่ารับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดว่าจะแตะที่ระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากใกล้สู่เข้าช่วงฤดูหนาวทั่วโลกทำให้ความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้น
ส่วนระยะกลางและยาวหุ้นที่น่าลงทุนคือ CPALL ราคาเป้าหมาย 72.50 บาท หากภาครัฐปลดล็อกเคอร์ฟิวและให้บริการ 24 ชม.เหมือนเดิมทำให้มีรายได้เพิ่ม กรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ประเมินแนวรับ 1,600 จุด แนวต้านที่ 1,630 จุด
ที่มา : นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.คันทรี่กรุ๊ป
ภาพประกอบ : TNN Online