TNN online หุ้นไทยต.ค.เผชิญ 4 ปัจจัยรั้ง ปีหน้าลุ้นเป้าดัชนี 1,816 จุด

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยต.ค.เผชิญ 4 ปัจจัยรั้ง ปีหน้าลุ้นเป้าดัชนี 1,816 จุด

 หุ้นไทยต.ค.เผชิญ 4 ปัจจัยรั้ง   ปีหน้าลุ้นเป้าดัชนี 1,816 จุด

โบรกเผยตลาดหุ้นเดือนต.ค. เผชิญ 4 ปัจจัยกดดันระยะสั้น คาดเศรษฐกิจฟื้นตัวไตรมาส 4 หลังรัฐเร่งฉีดวัคซีน -ผู้ติดเชื้อลดลง แนะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีหวังการเติบโตในอนาคต มองดัชนีปีหน้าทะลุ1,816 จุด กำไรบจ.เพิ่มขึ้นเป็น 9.21 แสนล้านบาท เติบโต 8.8%

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า   เดือน ต.ค. 64 คาดปัจจัยกดดันตลาดหุ้น น่าจะเหลืออีกไม่มาก ถือเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี เพื่อคาดหวังการเติบโตที่แข็งแรงในช่วงที่เหลือของปี 2564 ต่อเนื่องในปี 2565


สำหรับปัจจัยกดดันตลาดระยะสั้นหลักๆ มีอยู่ 4 เรื่อง คือ 1. ปัญหา Evergrande คาดกระทบในวงจำกัด และส่งผลต่อตลาดการเงินไทยน้อย ทั้งในมุมกองทุนรวมไทยถือตราสารหนี้ Evergrande เพียง 0.1 – 0.7% ขณะที่ผู้พัฒนาอสังหาฯไทยยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มี Net Gearing ล่าสุดเพียง 1.0 เท่า   


2. ความกังวล Fed จะส่งสัญญาณลดระดับ QE จะกลับมาสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและตลาดหุ้นอยู่เป็นระยะๆ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ เริ่มสวนทางกัน อาทิ สหรัฐ ยุโรป เริ่มทยอยใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้น ตรงข้ามกับประเทศในแถบเอเชียรวมถึงไทย ที่ยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อ 


3. น้ำท่วมในประเทศยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากช่วงต้นเดือน ต.ค. 2564 ไทยมีแนวโน้มเผชิญกับพายุอีก 2 ลูก คือ พายุ Lionrock และ พายุ Kompasu ขณะที่น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 เคยกดดันตลาดหุ้นไทยลดลง -24.5% 


4. กำไรบริษัทจดทะเบียนในช่วง 2H64 มีโอกาสลดลงถึง -42% HoH โดยเฉพาะช่วง 3Q64 ที่เผชิญกับ COVID-19 ระลอกที่ 3 แบบเต็มๆ อาจกดดันให้ตลาดหุ้นผันผวนในช่วงเข้าใกล้การประกาศงบ (ช่วงปลาย ต.ค. – ต้น พ.ย. 64)

ปัจจัยดังกล่าวล้วนเป็นส่วนหนึ่งกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าต่อ พร้อมกดดัน Fund Flow ให้ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นๆ ได้ 


อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในช่วง 4Q64 จากการทยอยผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ พร้อมกับการจัดหาวัคซีนมากขึ้น อีกทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อทยอยลดลงตามลำดับ หนุนเศรษฐกิจเติบโตแบบชัดเจนขึ้นในปี 2565 โดยฝ่ายวิจัยประเมิน GDP ปี 2565 เติบโตถึง 3.2% เช่นเดียวกับกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2565 ที่เบื้องต้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.21 แสนล้านบาท เติบโตถึง 8.8%YoY


ในมุม Valuation ฝ่ายวิจัย ASPS คงดัชนีเป้าหมายปี 2564 ที่ 1,670 จุด และเบื้องต้นประเมินเป้าหมายดัชนีปี 2565 ภายใต้ MEYG ที่ระดับ 3.9% และ EPS65F ที่ 80 บาท/หุ้น (ตัวเลขยังไม่นิ่ง) จะได้ดัชนีเป้าหมายขั้นต้น 1,816 จุด


ด้านกลยุทธ์แนะสะสมหุ้นในธีม  Re-Economy และ Restructure คัดหุ้นเข้าออก SET50-100 เตรียมรับการเติบโตที่ต่อเนื่องในปี 2565 พร้อมกับกระจายการลงทุนในหลากหลาย Sector อย่าง ADVANC, AEONTS, CPALL, CPN, KBANK และ TOP



 หุ้นไทยต.ค.เผชิญ 4 ปัจจัยรั้ง   ปีหน้าลุ้นเป้าดัชนี 1,816 จุด

ข่าวแนะนำ