TNN online ASW เล็งออกหุ้นกู้2พันล้าน ชำระหนี้คืน-ขยายธุรกิจในอนาคต

TNN ONLINE

Wealth

ASW เล็งออกหุ้นกู้2พันล้าน ชำระหนี้คืน-ขยายธุรกิจในอนาคต

ASW เล็งออกหุ้นกู้2พันล้าน  ชำระหนี้คืน-ขยายธุรกิจในอนาคต

ผู้ถือหุ้น ASW ไฟเขียวออกหุ้นกู้ 2 พันล้านบาทชำระหนี้คืน-ขยายธุรกิจ พร้อมอนุมัติปันผลรูปแบบหุ้นอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล -เงินสด 0.022 บาทต่อหุ้น


นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)  หรือ ASW  เปิดเผยว่า การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2564 ในรูปแบบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) ที่ผ่านมามีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานในงวด 1 ม.ค. - 30 มิ.ย.2564 จากกำไรสุทธิ โดยจ่ายเป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 95,125,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือ คิดเทียบเป็นมูลค่าเท่ากับอัตราการจ่ายปันผล 0.12500 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าทั้งสิ้น 95,125,000 บาท 


ขณะที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.02206 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 16,787,660 บาท รวมการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.14706 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 111,912,660 บาท  ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น(Record Date) ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 4 ตุลาคม 2564


นอกจากนี้ที่ประชุมอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ทุกประเภทและทุกรูปแบบ เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ เงินทุน หมุนเวียน ชำระหนี้คืน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ


“ การจ่ายเงินปันผลในรูปแบบหุ้นปันผลและเงินสดครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ASW หลังจากที่ได้เข้าจดทะเบียนใน SET ตั้งแต่เดือน เมษายน 2564 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  ส่วนการเสนอขายหุ้นกู้นั้น เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และรองรับโอกาสที่เพิ่มขึ้นอีกหลากหลายรูปแบบในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะช่วยสนับสนุนศักยภาพในการสร้างความมั่นคง และเสถียรภาพ สำหรับการประกอบธุรกิจในระยะยาว นับเป็นสิ่งที่สำคัญอันจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นในอนาคต ” 


บริษัทฯ เน้นให้ความสำคัญ ในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงการใหม่ๆ  และมั่นใจว่ายังสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปีนี้เติบโตขึ้น 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 4,205 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการที่แล้วเสร็จ ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ทำให้สามารถรับรู้รายได้ ประกอบด้วย โครงการเคฟ ทียู" (Kave TU) มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท 


โดยมียอดขายกว่า 90% ซึ่งกำลังทยอยโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้  และโครงการ " โมดิซ สุขุมวิท 50" (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้ รวมทั้งบริษัทมีแผนการขยายธุรกิจโดยมีความร่วมมือใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมทางการเงิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มากยิ่งขึ้น


ที่มา : บมจ..แอสเซทไวส์  

ภาพประกอบ : บมจ..แอสเซทไวส์  


ข่าวแนะนำ