ต่างชาติทิ้งบอนด์ไทย 3.29 หมื่นล้านทุบบาทอ่อนสุดในภูมิภาค

"รุ่ง"เผยสถิติการเคลื่อนไหวสกุลเงินในภูมิภาคตั้งแต่ 1 ก.ย.-23 ก.ย. เงินบาทแชมป์อ่อนสุด ในภูมิภาค ขณะที่ต่างชาติเทขายพันธบัตรไทยไปแล้วกว่า 3.29 หมื่นล้านบาท จับตาการฉีดวัคซีน-เปิดเมืองส่งผลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ขณะที่การเปิดรับนักท่องเที่ยว มีความไม่แน่นอนสูงเกาะติดผลประชุมกนง.29 ก.ย.นี้
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ กรอบ 33.20-33.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ติดตามคือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันที่ 29 ก.ย.คาดว่าคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% และเสียงไม่เอกฉันท์ แต่ต้องดูการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะถัดไป ยกเว้นที่ประชุมลดดอกเบี้ยจะถือว่าเซอร์ไพรส์ตลาดส่งผลให้เงินบาทอาจจะอ่อนค่า
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ มีรายงานจีดีพีไตรมาส 2, ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล, ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯติดตามกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตรไทย โดยตั้งแต่วันที่ 1-22ก.ย.ที่ผ่านมานักลงทุนซื้อสุทธิหุ้นไทย 7.9 พันล้านบาท ขายสุทธิพันธบัตร 3.29 หมื่นล้านบาท
ส่วนการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาค ตั้งแต่ 1 ก.ย.-23 ก.ย..ที่ผ่านมาพบว่าบาท-ไทยอ่อนสุด 3.73% รองลงมาคือวอน-เกาหลีใต้ 1.67% เปโซ -ฟิลิปปินส์ 1.19% รูปี-อินเดีย 1.07%
ริงกิต-มาเลเซีย 0.74%ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.49% หยวน-จีน 0.08%ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.03% ยกเว้นรูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.10%ดอง-เวียด นาม 0.08%
สาเหตุที่ค่าเงินบาทเน้นไปเรื่องการฉีดวัคซีน เปิดเมือง และการฟื้นเศรษฐกิจมากกว่า โดยเฉพาะการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีความไม่แน่นอนสูงแม้ว่าการฉีดวัคซีนใกล้ได้ตามแผน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อต้องดูระบาดเดลต้า สายพันธุ์ต่างๆด้วยว่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โดยผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อรับมือความผันผวน
ที่มา : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ภาพประกอบ : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา