หุ้นไทยรีบาวด์บวก 11.80 จุด รับข่าวรัฐยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ตลท.เล็งใช้เกณฑ์คำนวณหุ้นใหม่
ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 11.80 จุด แรงซื้อหุ้นเปิดเมืองหลังรัฐใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อ แทนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผสมโรงหุ้นกลุ่มแบงก์รับผลบวกจากตลท.เล็งปรับเกณฑ์คำนวณหุ้น SET50 และ SET100 หนุนดัชนี จับตาประชุมเฟด เน้นSelective Buy
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ1,614.86 จุด บวก 11.80 จุด หรือ 0.74 % โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,618.19 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,591.81 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83,910.37 ล้านบาทว่า หุ้นไทยปิดบวกแรงซื้อหุ้นเปิดเมือง หลังจากที่ประชุม ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อใช้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผล 1 ต.ค.นี้ แต่จะยกเลิกเคอร์ฟิวด์หรือไม่นั้นจะต้องติดตามการประชุมศบค.ชุดใหญ่อีกครั้ง
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะมีการนำเสนอมาตรการต่าง ๆ เข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 27 ก.ย. นี้ โดยมีแผนเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น โรงภาพยนตร์ และ สถานบันเทิง เป็นต้น ส่งผลดีต่อหุ้นเปิดเมือง เช่น AOT ปรับขึ้น 2% CRC 2.2% และ CPALL 1%
ส่วนหุ้นที่หนุนดัชนีวันนี้เป็นหุ้นกลุ่มแบงก์ เช่น BBL ,SCB,KBANK หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนที่จะปรับเกณฑ์การคำนวณหุ้น SET50 และ SET100 ขณะเดียวกันจะกดดันให้หุ้นใหญ่สภาพคล่องต่ำ รวมถึงหุ้นที่เคยติด Cash Balance อาจผันผวนมากขึ้นในช่วงนี้ เช่น DELTA อาจหลุด SET50 และSET 100
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวกลบสลับกันรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ว่าเฟดจะทยอยปรับลดวงเงินคิวอี 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐมากแค่ไหนทำให้ภาพรวมตลาดซึม
ขณะเดียวกันจะต้องติดตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค. consensus คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักหรือประมาณ 20% จากประเทศคู่ค้า เช่น จีน และอินเดียที่มีการนำเข้าสินค้ามากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว
ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้น Selective Buy ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง และการปรับเกณฑ์ SET 50และSET 100 เช่น CPALL,TU และ KBANKประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ 1,600-1,630 จุด