ดาวโจนส์ ปิดลบ 166.44 จุด นักลงทุนวิตกหลายปัจจัยกดดันตลาดร่วง
ดาวโจนส์ ปิดลบ 166.44 จุด ปิดที่ 34,584.88 จุด วิตกการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลด QE เร็วขึ้น
วันนี้ (18 ก.ย.64) ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังตลาดถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ปิดที่ 34,584.88 จุด ลดลง 166.44 จุด หรือ -0.48%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,432.99 จุด ลดลง 40.76 จุด หรือ -0.91%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,043.97 จุด ลดลง 137.96 จุด หรือ -0.91%
รอบสัปดาห์นี้ ดาวโจนส์ ลดลง 0.1% S&P500 ลดลง 0.6% และ Nasdaq ลดลง 0.5%
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรงตัวในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ย. โดยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 71 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ย. จากระดับ 70.3 ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2554 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 72 โดยชาวอเมริกันได้ชะลอการใช้จ่าย ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ขณะที่ ความวิตกเกี่ยวกับการเสนอปรับขึ้นภาษานิติบุคคลในสหรัฐฯ จากปัจจุบันที่ระดับ 21% เป็น 26.5% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนนั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นนั้น กดดันหุ้นกลุ่มเติบโตซึ่งเป็นหุ้นนำตลาด
อย่างไรก็ตาม บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดการในการปรับลดมาตรการ QE ของเฟด
ภาพจาก AFP