ดาวโจนส์ ปิดลบ 271.66 จุด หวั่นเฟดลด QE หลังเงินเฟ้อพุ่ง
ดาวโจนส์ ปิดที่ 34,607.72 จุด ลดลง 271.66 จุด นักลงทุนวิตกเฟดปรับลด QE และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังตัวเลขเงินเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
ภาพจาก AFP
วันนี้ (11 ก.ย.64) ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯหลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนส.ค. และนักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ปิดที่ 34,607.72 จุด ลดลง 271.66 จุด หรือ -0.78%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,458.58 จุด ลดลง 34.70 จุด หรือ -0.77%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,115.49 จุด ลดลง 132.76 จุด หรือ -0.87%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 2.15%, ดัชนี S&P500 ลดลง 1.7% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.61%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 11 ปี นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย. 2553 หลังจากดีดตัวขึ้น 7.8% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 6.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนส.ค. 2557
นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์กล่าวในวันศุกร์ว่า เงินเฟ้อในสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปีนี้ แต่จะปรับตัวลงในปีหน้า ขณะที่แนวโน้มมีความเสี่ยงในช่วงขาขึ้น
นางเมสเตอร์ได้กล่าวสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ แม้สหรัฐฯ มีการจ้างงานที่อ่อนแอในเดือนส.ค.ก็ตาม
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันอังคารที่ 14 ก.ย.นี้ เพื่อยืนยันทิศทางของภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ รวมถึงการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ เพื่อดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่