TNN online ตลาดทุนไทยแกร่งฝ่าโควิดติดโผแหล่งระดมทุนอันดับ 7ของโลก

TNN ONLINE

Wealth

ตลาดทุนไทยแกร่งฝ่าโควิดติดโผแหล่งระดมทุนอันดับ 7ของโลก

ตลาดทุนไทยแกร่งฝ่าโควิดติดโผแหล่งระดมทุนอันดับ 7ของโลก

ตลาดทุนไทยแกร่งนักลงทุนใน-นอกประเทศแห่เข้ามาลงทุนกันคึกคักแม้ทั่วโลกเผชิญโควิด มาร์เก็ตแคปทะยานรอบ 10 ปีแตะ 19 ล้านล้านบาท ชี้ไทยติดอันดับ 7 แหล่งระดมทุนสูงสุดของโลก "ภากร" มองเศรษฐกิจโลก-ไทยปีหน้าเปราะบางความผันผวนเพิ่มขึ้น เตือนนักลงทุนรับมือ

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยภายในงานสัมมนาเรื่องสุข ภาพเศรษฐกิจไทย เขียว เหลือง หรือแดง จัดโดย TNN ก้าวสู่ปีที่ 14 ว่า ตลาดทุนไทยแข็งแกร่งแม้ว่าจะเกิดการแพร่ระ บาดโควิด โดยในปี 63 ที่ผ่านมาเป็นแหล่งระดมทุนสูงสุดเป็นอันดับ 7 ของโลก อันดับ 2 ของเอเชีย  และอันดับ 1 ของอาเซียน  แม้เศรษฐกิจไม่ดีแต่สภาพคล่องดี บริษัทเอกชนเข้ามาระดมทุนต่อเนื่องการซื้อขายหุ้นและสภาพคล่องสูงจากเดิมวันละ 68,000ล้านบาท เป็นวันละ 93,000 ล้านบาท  แม้ว่าอยู่ในช่วงภาวะดอกเบี้ยต่ำ สภาพคล่องยังดีอยู่มีเม็ดเงินจากต่างประเทศ และนักลงทุนในประเทศเข้ามาลงทุนสม่ำเสมอ


สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าโต 1% จากปีที่แล้วติดลบ 6% จากผลกระทบโควิด แต่ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้จากตัวเลขการส่งออกที่คาดว่าจะเติบโต 16% 


ซึ่งตลาดทุนไทยก็เป็นสิ่งหนึ่งในการชี้วัดเศรษฐกิจและภาคธุรกิจมีการปรับตัวแตกต่างกันออกไป โดยภายหลังจากที่เศรษฐ กิจโลกฟื้นบจ.ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกฟื้นตัวเฉลี่ยประมาณ 10% รวมถึงพลังงาน เทคโนโลยี ภาคการผลิตเริ่มดีขึ้น แต่บางธุรกิจ เช่น ท่องเที่ยว ร้านอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ภาคการเงินยังไม่ฟื้นตัว แต่เชื่อว่าหากภาครัฐมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นกลับมาเร็ววัน



ตลาดทุนไทยแกร่งฝ่าโควิดติดโผแหล่งระดมทุนอันดับ 7ของโลก

นอกจากนี้หากมองถึงบจ. 400 บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 26% ของรายได้รวมสะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้นจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวตาม  ส่วนสุขภาพตลาดทุนไทยมีทั้งเขียว เหลือง และแดงจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ที่ผ่านมาเห็นว่าบจ.ส่วนใหญ่ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดเข้าสู่ยุคนิวนอร์มอล ทั้งด้านเทคโนโลยีการทำงาน WFH ดูแลพนักงานเพิ่มขึ้น


จุดแข็งของธุรกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วคือบจ.ให้ความสำคัญด้านการยั่งยืนมาหลายสิบปีตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งโดยหลายบริษัทอยู่ใน Thailand Sustainability  index ,dow jones sustainability index  ซึ่งทำให้หุ้นของบริษัทที่อยู่ในดัชนีต่าง ๆ ให้ผลตอบแทนในตลาดทุนสูงถือเป็นจุดแข็งของประเทศที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและทำให้บจ.ไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก


ทั้งนี้หากมองย้อนกลับไป 10 ปี ตลาดทุนไทยในวันนั้นมีมาร์เก็ตแคปเพียง 8.7 ล้านล้านบาท ที่ใหญ่ ๆ คือกลุ่มทรัพยากร

30% กลุ่มการเงินและประกันภัย 22% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 14% บริการ 11% ลองมาดูวันนี้จะเห็นว่าทรัพยากรเหลือ 21% การเงินประกันภัยลดลงมาอยุ่ที่ 12.-14% แต่ภาคธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นมาคือเทคโนโลยีจาก 9% เป็น 14% และมูลค่าตลาดสูงถึง  19 ล้านล้านบาทเติบโตถึง 2 เท่า


ถ้าดูองค์ประกอบของเศรษฐกิจไทยมีสัดส่วน 60% ของจีดีพีอย่างน้อยธุรกิจส่งออก 40% กำลังเข้าสู่ภาวะปกติเข้าสู่ภาวะสีเขียว แต่ธุรกิจบริการยังแดงเหลืองต้องรอการกลับมา 


อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา การสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้ให้ข้อมูลกับต่างชาติว่า นโยบายภาครัฐสิ่งที่ทำในอนาคตเป็นอย่างไรเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน  โดยงานไทยแลนด์โฟกัสได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรัฐขับเคลื่อนเศรษฐ กิจ และการแก้ปัญหาวัควีน นำผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลกับนักลงทุน  นอกจากนี้ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์อุปโภค บริโภค การผลิตปรับตัวอย่างไรในนิวนอร์มอล และบริษัทต่าง ๆ เริ่มนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น  เพื่อให้ต่างชาติเห็นว่าเศรษฐกิจไทยปรับตัวอย่างไร และให้ข้อมูลเกี่ยวกับบจ. ในด้านความยั่งยืน เพื่อให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจไทยและการทำธุรกิจบจ.ไทย 


นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญสำคัญคือจัดการวัคซีนทำอย่างไรให้วัคซีนเข้าถึงประชาชนมากสุด เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาได้ ส่วนการฟื้นตัวเศรษฐไทย และโลกปีหน้ามีเปราะบางมากจากก่อนหน้านี้ธนาคารกลางหลายแห่งอัดฉีดสภาพคล่องมาก แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวจะทำให้มีการดึงสภาพคล่องออกจากตลาดทำให้ความผันผวนในตลาดมากขึ้น  นอกจากนี้โควิดทำให้เกิดนิวนอร์มอลโลกจะไม่กลับมาเหมือนเดิมเราจะปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดโดยตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในอนาคตด้วย




ข่าวแนะนำ