TNN online ทองคำปรับขึ้นในระยะสั้น จับตาจีนคุมเข้มบ.เทคฯกระทบตลาดหุ้นอานิสงส์เงินไหลเข้าทอง 

TNN ONLINE

Wealth

ทองคำปรับขึ้นในระยะสั้น จับตาจีนคุมเข้มบ.เทคฯกระทบตลาดหุ้นอานิสงส์เงินไหลเข้าทอง 

ทองคำปรับขึ้นในระยะสั้น จับตาจีนคุมเข้มบ.เทคฯกระทบตลาดหุ้นอานิสงส์เงินไหลเข้าทอง 

วายแอลจี มองทองคำปรับขึ้นในระยะสั้น ระยะกลางยังต้องลุ้น จับตาจีนคุมเข้มบ.เทคฯกระทบตลาดหุ้นอานิสงส์เงินไหลเข้าทอง มองแนวต้านระยะสั้นที่ 28,350 -28,650 บาท แนวรับระยะสั้นมองที่ 27,900 - 27,650 บาท 

วันนี้( 21 ส.ค.64)  นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG)  เปิดเผยว่า บรรยากาศราคาทองคำปรับลดค่อนข้างมากในสัปดาห์ก่อน แต่ในระยะสั้นเริ่มมีการดีดกลับ แต่ก็ยังมีแรงขายเมื่อปรับตัวขึ้นไปถึงแนวต้านทำให้การเคลื่อนไหวในช่วงนี้จะยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบ โดยสาเหตุที่ราคาทองคำไม่ได้ปรับลดลงอย่างรวดเร็วเช่นสัปดาห์ก่อน  เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน การที่จีนคุมเข้มกฎระเบียบในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี และการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา  ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงจากแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  ส่งผลให้ตลาดทองคำยังคงปรับตัวลดลงอย่างจำกัด

ทั้งนี้เมื่อต้นสัปดาห์ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,795 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่เป็นแนวโน้มการปรับขึ้นในระยะสั้น แม้ต้นสัปดาห์จะปรับขึ้นมาค่อนข้างดี แต่เมื่อทองคำเข้าใกล้แนวต้านจะมีแรงขายออกมา แต่แรงขายก็ไม่ได้ทำให้ทองคำปรับลงมามาก ดังนั้นในระยะนี้นักลงทุนต้องจับตาว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวไปแบบไหน เพราะแม้จะมีสัญญาณบวกในระยะสั้นแต่ระยะกลางยังเป็นสัญญาณอ่อนตัว โดยเฉพาะราคาทองคำในประเทศที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าช่วงสั้นๆ  โดยมีปัจจัยลบจากการที่กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำกลับมามีสัญญาณชะลอตัว หรือ ขยับขึ้นอย่างจำกัด รวมถึงปัจจัยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ต้องจับตามอง ส่วนปัจจัยบวกทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ถูกกดดันจากผลกระทบการระบาดของโควิด -19 และกรณีที่จีนมีนโยบายป้องปรามการขยายตัวของธุรกิจเทคโนโลยี ห้ามการผูกขาด ห้ามแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ทำให้หุ้นในจีนปรับฐานและอ่อนตัวลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีของจีนนั้นจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นจีนและสหรัฐจึงอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง ประเด็นนี้จึงเป็นหนึ่งปัจจัยที่พยุงทองคำให้ไม่ปรับตัวลดลงไปอย่างรวดเร็ว


โดยในทางเทคนิค หากทองคำมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องและขึ้นไปยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จะทำให้มีโอกาสปรับตัวได้อีกแม้ว่าทิศทางทองคำระยะกลางยังเป็นลักษณะอ่อนตัวลง แต่หากราคาไม่มีระดับต่ำสุดใหม่และมีปัจจัยบวกมาหนุนจากการไหลเข้าของเงินทุนที่ไหลออกจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นก็มีโอกาสปรับขึ้นได้ โดยมองแนวต้านระยะสั้นที่ 1,796  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  หรือ 28,350 บาท หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบ 1,814 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,650 บาท ด้านแนวรับ 1,768 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  หรือ 27,900 บาทโดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,751 หรือ 27,650 บาท


สำหรับ  บรรยากาศการลงทุนในประเทศ ยังมองว่ามีโอกาสที่ในปีนี้จะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในทองคำมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากลดการคุ้มครองเหลือ 1 ล้านบาท อาจทำให้มีเงินลงทุนบางส่วนถูกโยกมาพักไว้ที่ทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย และไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ โดยจากต้นปีถึงปัจจุบันพบว่ามีนักลงทุนมาเปิดบัญชีซื้อขายทองคำกับวายแอลจีเพิ่มขึ้ยในทุกประเภททั้งทองคำแท่ง  ออมทอง  รวมไปถึงการลงทุนตลาดอนุพันธ์

ข่าวแนะนำ