TNN online ดาวโจนส์ปิดลบ 66.57 จุด วิตกเดลตาฉุดหุ้นวัฏจักรร่วง

TNN ONLINE

Wealth

ดาวโจนส์ปิดลบ 66.57 จุด วิตกเดลตาฉุดหุ้นวัฏจักรร่วง

ดาวโจนส์ปิดลบ 66.57 จุด วิตกเดลตาฉุดหุ้นวัฏจักรร่วง

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดลบ 66.57 จุด เหตุวิตกไวรัสเดลตาฉุดหุ้นวัฏจักรร่วง

วันนี้(20 ส.ค. 64) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

 ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,894.12 จุด ลดลง 66.57 จุด หรือ -0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,405.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด หรือ +0.13% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,541.79 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด หรือ +0.11%

ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในไตรมาส 3 เหลือเพียง 5.5% จากเดิม 9% เนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคการผลิตของสหรัฐ

นักลงทุนเทขายหุ้นวัฏจักรซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นดังกล่าวรวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 0.84% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.47% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 1.31% หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3.12% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 2.55% หุ้น 3M ปรับตัวลง 0.59%

หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญร่วงลง ท่ามกลางความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาอาจทำให้การเปิดเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.86% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 2.14% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 2.46% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ดิ่งลง 3.69% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส ปรับตัวลง 0.91%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 5.8% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ร่วงลง 4.72% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3.05% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.4% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 2%

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 3.98% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2 ขณะที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 4.18% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.08% หุ้นแอปเปิล บวก 0.26% หุ้นอินเทล ปรับตัวขึ้น 0.48%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้น Defensive Stocks หรือหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค และกลุ่มเฮลธ์แคร์ โดยหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 1.18% หุ้นเป๊ปซี่โค โค พุ่งขึ้น 1.68% หุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล บวก 0.47% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวขึ้น 0.8% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 1.44% หุ้นเมิร์ค แอนด์ โค บวก 0.86%

 สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 348,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 377,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกร่วงลงสู่ระดับ 19.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 จากระดับ 21.9 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีภาวะธุรกิจปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยได้รับผลกระทบจากภาวะตึงตัวของอุปทาน

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง