ดาวโจนส์ปิดร่วงแรง 282.12 จุด นักลงทุนกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดาวโจนส์ปิดที่ 35,343.28 จุด ลดลง 282.12 จุด นักลงทุนกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังเผยยอดค้าปลีกดิ่งลงอย่างหนัก
วันนี้ (18ส.ค.64) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของโฮม ดีโปท์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,343.28 จุด ลดลง 282.12 จุด หรือ -0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,448.08 จุด ลดลง 31.63 จุด หรือ -0.71% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,656.18 จุด ลดลง 137.58 จุด หรือ -0.93%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ร่วงลง 1.1% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.3% โดยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา รวมทั้งการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้หมดอายุลง
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มหุ้นสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) ร่วงลง 2.68% โดยหุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ (Capri Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างไมเคิล คอร์ส และจิอันนี เวอร์ซาเช่ ร่วงลง 4.49% หุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 2.69% หุ้นไนกี้ ปรับตัวลง 0.99%
หุ้นโฮม ดีโปท์ ดิ่งลง 4.32% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยแม้ว่าบริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่บริษัทเปิดเผยว่า ลูกค้าที่เดินทางเข้าร้านเพื่อซื้อสินค้าประเภท DIY หรือ do-it-yourself มีจำนวนลดลงถึง 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของโฮม ดีโปท์ ได้ฉุดราคาหุ้นของบริษัทอื่นๆที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกันร่วงลงด้วย โดยหุ้นโลว์ส (Lowe's) ทรุดตัวลง 5.8% หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ร่วงลง 3.56% หุ้นทาร์เก็ต ดิ่งลง 2.9%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 75 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2563 โดยมีสาเหตุจากสต็อกบ้านที่มีจำกัด การขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน และต้นทุนในการก่อสร้าง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร (17ส.ค.)ปรับตัวลง 282 จุด ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเผยยอดค้าปลีกซบเซาเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 282.12 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 35,343.28 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 31.63 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 4,448.08 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 137.58 จุด หรือ 0.93% ปิดที่ 14,656.18 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.1% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.3%
ยอดค้าปลีกที่ซบเซาในเดือนก.ค. โดยรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา รวมทั้งการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้หมดอายุลง
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.0% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนมิ.ย.
ดัชนีดาวโจนส์ยังถูกกดดันจากการร่วงลงกว่า 4% ของราคาหุ้นโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ซึ่งแม้เปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่บริษัทเปิดเผยว่า ลูกค้าที่เดินทางเข้าร้านเพื่อซื้อสินค้าประเภท DIY หรือ do-it-yourself มีจำนวนลดลงถึง 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความวิตก หลังสหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงต่ำสุดรอบ 1 ปีในเดือนส.ค.
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (เอ็นเอเอชบี) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 75 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2563