TNN online โควิดพ่นพิษโรงแรมกุมขมับขาดสภาพคล่องส่อแววปิดกิจการ

TNN ONLINE

Wealth

โควิดพ่นพิษโรงแรมกุมขมับขาดสภาพคล่องส่อแววปิดกิจการ

โควิดพ่นพิษโรงแรมกุมขมับขาดสภาพคล่องส่อแววปิดกิจการ

"มาริสา"เผยโพลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือนก.ค. โรงแรมไทยเหลือสภาพคล่องสูงสุด 3 เดือน ขณะที่สัดส่วน 20% เหลือเพียง 1 เดือน ส่วนเดือนส.ค.ประเมินเข้าพักหดตัวเหลือ 8%จี้รัฐเร่งฉีดวัคซีน

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยผลสำรวจ "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม" เดือนก.ค.2564 จัดทำโดยสมาคม ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่ามีโรงแรมตอบแบบสำรวจจำนวน 304 แห่ง  แบ่งเป็นโรงแรมสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine : ASQ) 28 แห่ง และฮอสพิเทล 4 แห่ง ระหว่างวันที่ 13-26 ก.ค.ที่ผ่านมา 


ทั้งนี้พบว่าผู้ประกอบการที่พักแรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 4 อย่างต่อเนื่อง อัตราการเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนมิ.ย.


"โรงแรมส่วนใหญ่ที่เปิดกิจการในเดือนก.ค.มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% จากเดือนมิ.ย. และมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน ทั้งนี้ กลุ่มที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน มีสัดส่วนค่อนข้างสูงถึง 23% กระจายอยู่ในทุกภูมิภาค สำหรับกลุ่มที่มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย.เกือบทั้งหมดเป็นโรงแรมในภูเก็ตที่มีการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีอัตราการเข้าพักมากกว่า 20% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างมาก"


สถานการณ์รายได้เดือนก.ค. พบว่าโรงแรมส่วนใหญ่ยังมีรายได้อยู่ในระดับต่ำมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 56.9% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด มีรายได้ไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด

ส่วนอัตราการเข้าพักเดือนก.ค.เฉลี่ยต่ำกว่า 10% ทรงตัวจากเดือนก่อน เนื่องจากการเข้าพักที่ปรับเพิ่มขึ้นของโรงแรมในภาคใต้ โดยเฉพาะภูเก็ตที่เปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นสำคัญ ขณะที่ภาคเหนือและภาคกลางยังมีอัตราการเข้าพักลดลงต่อเนื่อง


นอกจากนี้จากการสำรวจ "สถานะกิจการ" ของผู้ประกอบการ 272 แห่ง (ไม่รวม ASQ และฮอสพิเทล) มีโรงแรมเพียง 40. 1% ที่ยังเปิดกิจการปกติ ที่เหลือ 38.2% เปิดกิจการเพียงบางส่วน และอีกกว่า 21.7% ที่ยังปิดกิจการชั่วคราว โดยสัดส่วนของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย. 2.2% 


ทั้งนี้โรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราว กว่า 56% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการ อีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้  โดยกลุ่มที่คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการภายในไตรมาส 3 นี้มีเพียง 12% ถือว่าลดลงค่อนข้างมาก จากการสำรวจในเดือน มิ.ย.ที่ 26% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น 



อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมโรงแรมกลุ่มที่ปรับตัวมารับลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในไทย และคนไทยที่พักแบบระยะยาว (Long stay) เที่ยวไปด้วย ทำงานไปด้วย (Workation) และการเข้าพักโรงแรมเพื่อการพักผ่อน (Stay cation) ผ่านการออกโปรโมชั่นราคาพิเศษ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวโครงการแซนด์บ็อกซ์ จะทำให้อัตราเข้าพักอยู่ในระดับต่ำ เฉลี่ยอยู่ที่ 6.5%


"โรงแรมส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสถานการณ์ในเดือนส.ค.นี้จะปรับแย่ลงจากเดือนก.ค. โดยคาดการณ์อัตราเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 10% ในทุกภาค รวมทั้งประเทศอยู่ที่ 8% และต่ำสุดคือภาคเหนืออยู่ที่ 4% เท่านั้น"


ส่วนมาตรการช่วยเหลือที่ผู้ประกอบการเร่งจัดหาและกระจายวัคซีนเร็วกว่าแผนเป็นอันดับแรก ต่างจากการสำรวจทุกรอบที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการได้รับวัคซีนและประสิทธิภาพของวัคซีนในสถานการณ์ปัจจุบัน รองลงมาคือการพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย และการสนับสนุนค่าจ้างพนักงานเดิมด้วยวิธีรัฐช่วยจ่าย


ข่าวแนะนำ