ผู้ส่งออกเฮ! เงินบาทแชมป์อ่อนค่าสุดในภูมิภาค

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า  การเคลื่อนไหวสกุลเงินในภูมิภาครอบ 7 เดือนที่ผ่านมา ( ม.ค.- ก.ค.) ที่ผ่านมาพบว่าสกุลเงินที่อ่อนค่ามากสุดคือเงินบาท-ไทย  8.88% รองลงมาคือวอน-เกาหลีใต้ 5.56% ริงกิต-มาเลเซีย 4.74% 

เปโซ-ฟิลิปปินส์ 3.98% รูเปียห์-อินโดนีเซีย 2.86 %  ดอลลาร์-สิงคโปร์ 2.38% รูปี-อินเดีย 1.82% ยกเว้นดอลลาร์-ไต้หวันแข็ง 1.23% หยวน-จีนแข็ง 1.02% ดอง-เวียดนามแข็ง 0.66 %  อย่างไรก็ตาม  ตั้งแต่ม.ค.-ก.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 9.93 หมื่นล้านบาท ขณะที่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 7.88 หมื่นล้าน โดยผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.15-33.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐโดยแนวโน้มเงินบาทเผชิญแรงกดดันรอบด้าน  ซึ่งมองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)  เล็งใช้กระสุนสุดท้ายด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต สำหรับสถานการณ์โควิดในประเทศไม่มีสัญญาณคลายตัว การฉีดวัคซีนต่ำกว่าเป้าหมาย จังหวะเวลาเปิดเมืองไม่แน่นอนสูง ส่วนทิศทางค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 943,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 845,000 ตำแหน่ง จากระดับ 938,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.4% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.7% หลังจากแตะระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย. อยู่กับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ขณะที่สัปดาห์หน้าติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ  ตลาดคาดว่าน่าจะเห็นจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา