TNN online ส่องหุ้นส่งออก ! ตัวไหนน่าลงทุนเด้งรับบาทอ่อน

TNN ONLINE

Wealth

ส่องหุ้นส่งออก ! ตัวไหนน่าลงทุนเด้งรับบาทอ่อน

ส่องหุ้นส่งออก ! ตัวไหนน่าลงทุนเด้งรับบาทอ่อน

โบรกมองหุ้นเกษตรอาหารยังเติบโตต่อเนื่อง แรงส่งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ หนุนส่งออกพุ่ง หุ้นตัวไหนน่าลงทุนรับอานิสงส์บาทอ่อนตามไปดูกันเลย

นายเอนกพงศ์ พุทธาภิบาล  ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าการส่งออกยังเติบโตต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ แม้ว่าจะเผชิญกับความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด โดยสินค้าเกษตรอาหารที่ขยายตัวเช่น ไก่ กุ้ง ยางพาราเติบโต YOY จากความต้องการนำเข้าสินค้าในหลายประเทศเพิ่มขึ้นทำ ให้ราคาสินค้าบางตัวปรับสูงขึ้นเช่น น้ำตาลเพิ่ม 25% ยางพาราเพิ่ม 20% เป็นต้น


สำหรับการปิดโรงงานผลิตบางแห่งที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด เชื่อว่าไม่มากนัก แม้จะมีโรงงานบางแห่งปิดทำการ แต่โรงงานที่เหลือก็ยังสามา รถที่จะเพิ่มกำลังการผลิตทดแทนได้จึงคาดว่าผลกระทบจำกัด ส่วนปัญหาเรื่องการขาด แคลนตู้สินค้าทำให้การขนส่งอาจมีความล่าช้านั้น ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทำให้ต้นทุนการขน ส่งผู้ประกอบการปรับตัวขึ้นบ้าง


อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าหุ้นกลุ่มเกษตรอาหารที่ดูแลครอบคลุม 7 บริษัท (TU,CPF,GFPT,NER,TFG,KSL,STA) คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ  51,000 ล้านบาท หรือเติบโต 9.2%  แต่ถ้ารวม STGT ในกลุ่มเวชภัณฑ์ด้วยมองว่าจะมีกำไรประมาณ 78,000 ล้านบาท หรือเติบโต 27.9% 


สำหรับหุ้นที่แนะนำลงทุนช่วงนี้คือ  NER ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท โดยมองว่า ทิศทางกำไรจะขึ้นทำ New High ใน 2Q 64 แนวโน้มกำไรสุทธิงวด 2Q64 จะขึ้นทำ New High รายไตรมาส จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราเพิ่มขึ้น จากการเริ่มเข้าช่วงฤดูกาลส่งมอบยางของ NER


ขณะที่ทิศทางกำไรจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องในงวด 2H64 เพราะเป็นช่วง High season ของการขายยางพารา ทิศทางกำไรสุทธิปี 2564-65 จะเติบโตถึง 87.5% yoy และ 17.4% yoy จากปริมาณขายยางพาราเติบโตต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และทิศทางราคายางพาราที่ยังดีต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อประสิทธิภาพการทำกำไรให้ดีขึ้นด้วย  


นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER เพียง 7 เท่า และ Div Yield กว่า 5%จึงยังแนะนำซื้อ


หุ้นเด่นอีกตัวคือ TU   คาดกำไรสุทธิงวด 2Q64 จะเติบโต จากการเริ่มเข้าช่วง high seasonของธุรกิจ หนุนปริมาณขายกุ้งและทูน่าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในงวด 2Q64 หนุนประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้น ขณะที่คาดกำไรสุทธิงวด 3Q64 ยังดีต่อเนื่อง จากช่วงฤดูกาลส่งออกกุ้งและทูน่าสู่ต่างประเทศปรับเพิ่มประมาณการกำ ไรสุทธิปี 2564-65 ขึ้นเฉลี่ย 16% จากประสิทธิภาพการทำกำไรและธุรกิจ Red Lobster ที่ดีกว่าคาด 


อย่างไรก็ตาม ภายหลังปรับประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 64-65 จะเพิ่มขึ้น 18.2% yoy และ 3 % yoy จากธุรกิจกุ้ง แซล อนและ Red Lobster ฟื้นตัว กำหนด Fair value ปี 2564  ใหม่ เท่ากับ 24 บาท และคาด Div Yield กว่า 4% จึงยังแนะ นำซื้อ



ข่าวแนะนำ