TNN online ผวาปิดเมืองตามรอย"อู่ฮั่น" ส่อทุบดัชนีร่วงหลุด 1,500 จุด

TNN ONLINE

Wealth

ผวาปิดเมืองตามรอย"อู่ฮั่น" ส่อทุบดัชนีร่วงหลุด 1,500 จุด

ผวาปิดเมืองตามรอยอู่ฮั่น  ส่อทุบดัชนีร่วงหลุด 1,500 จุด

โบรกมองอู่ฮั่นโมเดลเกิดขึ้นยากชี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-เศรษฐกิจไทย-จีนแตกต่างกัน ระบุหากรัฐเดินตามรอยจริงส่อทุบหุ้นร่วงหลุด 1,500 จุดเตือนระวังกำไรบจ.เสี่ยงถูกหั่นอีกรอบหลังตัวเลขไวรัสพุ่งไม่หยุด หุ้นตัวไหนน่าซื้อ-เลี่ยงลงทุนตามไปดูกันเลย

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส  หรือ ASPS เปิดเผยถึงกรณีที่กรมควบคุมโรคส่งสัญญาณว่าหากไทยยังควบคุมการแพร่ระบาดไม่ได้ อาจจะต้องใช้มาตรการ "อู่ฮั่นโมเดล"ว่า  ฝ่ายวิจัย ASPS คาดว่าโอกาสที่ไทยจะสกัดโควิดแบบอู่ฮั่นโมเดลเกิดขึ้นได้ยาก


ทั้งนี้เป็นผลมาจาก 2 ส่วนหลักคือ 1. สัดส่วนผู้ติดเชื้อที่แตกต่างกันมาก คือ ปัจจุบันผู้ติดเชื้อในไทยสูงเกินหนึ่งหมื่นรายต่อวัน (ตอนอู่ฮั่นระบาดเพียงหลักร้อยต่อวัน) 2. ขนาดของมูลค่าทางเศรษฐกิจ การกระจายโควิด13 จังหวัดที่รัฐออกมาตรการคุมเข้มมีสัดส่วนมูลค่าเศรษฐกิจสูงถึง 60% ของประเทศ (อู่ฮั่นมีสัดส่วนเศรษฐกิจเพียง 4.6% ของประเทศเท่านั้น)


อย่างไรก็ตาม หากมาตรการนี้ออกมาน่าจะกดดัน SET Index พอสมควร เนื่องจากในอดีตเวลามีมาตการ Lockdown ออกมาจะกดดัน SET Index 4-6% จึงประเมินแนวรับเบื้องต้นที่ 1,475 จุด เป็นแนวรับแรก และ 1,450 จุด เป็นแนวรับถัดไป  


นอกจากนี้กำไรบจ.ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลด ดังนั้นนักลงทุนจะต้องระวังกับดักงบ 2Q64 เนื่องจากงบการเงินงวด 2Q64 ยังดูดี แต่ 3Q64 น่ากังวล คือ เบื้องต้นฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินกำไรงวด 2Q64 ของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ยังเติบโต yoy  ส่วนหนึ่งเกิดจากฐานกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 2Q63 ต่ำเพียง 1.26 แสนล้านบาท (ระดับปกติเกิน 2 แสนล้านบาทต่อไตรมาส) จากการเผชิญกับ COVID-19 ระลอกแรก และมีการ Lockdown 

การเลือกลงทุนโดยดูเฉพาะงบ 2Q64 อย่างเดียวอาจไม่ถูกต้อง 


ทั้งนี้เนื่องจากกำไรบริษัทจดทะเบียนยังมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลงจากมุม มองนักวิเคราะห์พื้นฐานเบื้องต้น มีกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ COVID-19 ระลอกใหม่ราว 73% ของกำไรรวม โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักคือ กลุ่มท่องเที่ยว, ขนส่ง, ก่อสร้าง, บันเทิง, ศูนย์การค้า และธ.พ. 


ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงต้องรอดูระยะเวลาและมาตการที่ออกมาประกอบจึงจะประเมินผลกระทบที่ชัดเจนได้ แต่หากยังยืดเยื้อจะสร้าง Downside ต่อประมาณการกำไรแน่นอน ถือเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องเตรียมรับมือ


ขณะเดียวกันมองว่ากรณีตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตลาดหุ้นยังมีความเสี่ยง และขยับขึ้นยาก สำหรับกลยุทธ์แนะนำหลบเข้ากลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดคือ กลุ่ม ICT (แนะนำ ADVANC, JMART), กลุ่มร.พ. (แนะนำ BDMS ), กลุ่ม Packaging (แนะนำ SCGP) รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า (แนะนำ TU, NER) รวมถึงหุ้นผันผวนต่ำปันผลระหว่างกาลสูง (MCS, TMT, TVO)


อย่างไรก็ดีในทางกลับกันกรณีตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 เริ่มลดลง หรือถ้าให้ดีคือลดน้อยกว่าผู้ที่รักษาหาย จังหวะนั้นแนะนำกลับมาเพิ่มน้ำหนักหุ้นในพอร์ต โดยเฉพาะหุ้นที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในประเทศ อาทิ หุ้นกลุ่มธ.พ. ที่ฟื้นเร็ว (แนะนำ KBANK, SCB) หุ้นขนส่ง (แนะนำ BTS, BEM, AOT) หุ้นท่องเที่ยว (แนะนำ CENTEL) หุ้นค้าปลีก (แนะนำ OR, CRC, CPALL) น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าหุ้นตัวอื่นๆ

ข่าวแนะนำ