ส่งออกรับทรัพย์ ! บาทอ่อนขึ้นแท่นอันดับ 2
"รุ่ง"มองเงินบาทมีแนวโน้มทะลุ 33 บาทต่อดอลลาร์ หลังโควิดพุ่งไม่หยุด-จับตาประชุมเฟด 27-28 ก.ค.นี้ ระบุตั้งแต่ 1 ก.ค.-23 ก.ค. บาทอ่อนขึ้นแท่นอันดับ 2 รองจากเปโซ-ฟิลิปปินส์
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-33.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มองแนวโน้มเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นผลมาจากความกัลวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่รุนแรงขึ้น
นอกจากนี้การแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้าในหลายประเทศอาจทำให้ตลาดระวังมากขึ้นในการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสำหรับปัจจัยชี้นำหลักของตลาดโลก ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) วันที่ 27-28 ก.ค. คาดเฟดคงนโยบายดอกเบี้ยไว้เหมือนเดิม และข้อมูลจีดีพี ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินบาทมีโอกาส 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัญฯ ขึ้นอยู่กับสัญญาณจากเฟด และโควิดภายใน โดยเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลดีต่อการส่งออก แต่อาจมีสะดุดบ้างชั่วคราวจากการปิดโรงงาน
สำหรับการเคลื่อนไหวสกุลเงินในภูมิภาคตั้งแต่ 1 ก.ค.-23 ก.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ค่าเงินเปโซ-ฟิลิปปินส์อ่อนค่ามากสุด 3.01% รองลงมาคือเงนิบาท-ไทย 2.67% วอน-เกาหลีใต้ 2.10 % ริงกิต-มาเลเซีย 1.75% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 1.06% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.56% หยวน-จีน 0.23% รูปี-อินเดีย 0.18% ดอง-เวียดนามทรงตัว ยกเว้นรูเปียห์-อินโดนีเซียแข็ง 0.03%
ส่วนภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายตั้งแต่ 1-22 ก.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ต่างชาติ ขายสุทธิในตลาดหุ้น1.19 หมื่นล้านบาทและขายสุทธิพันธบัตรไทย 1.06 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกและนำเข้าควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนรับมือความผันผวนของค่าเงิน